ยอมรับ แต่ไม่ยอมจำนน

ผู้หญิงคนหนึ่งครับที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1996

เธอชื่อเอมี่ ฟาน เดเคน เธอเป็นนักว่ายน้ำอเมริกัน ในปีนั้นเธอกวาดมาได้ถึง 6 เหรียญทอง

และเอมี่ยังเป็นเจ้าของสถิติโลกอีกหลายรายการ ท่าที่เธอถนัดคือท่าผีเสื้อและท่าฟรีสไตล์

ความยอดเยี่ยมของเธอทำให้เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกีฬาหญิงที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของโลก

ที่มาของการเป็นนักกีฬาของเธอไม่ธรรมดาครับ

เธอเริ่มต้นจากการใช้กีฬาเพื่อบำบัดอาการโรคหอบหืดของเธอ

จากคำแนะนำของหมอว่ากีฬาว่ายน้ำจะทำให้ปอดเธอแข็งแรงขึ้น

เธอกล่าวไว้น่าฟังมากครับว่าเริ่มต้นเธอไม่ได้รักกีฬาว่ายน้ำหรอกครับ

แค่คิดว่าในเมื่อเธอจำเป็นที่จะต้องว่ายน้ำแล้วทำไมล่ะ เธอถึงจะไม่เรียนรู้ที่จะรักกีฬาว่ายน้ำ

จากการเริ่มต้นเรียนรู้ที่จะรัก เปลี่ยนจากพฤติกรรมเป็นนิสัย

ท้ายที่สุดเธอสารภาพว่าเธอรักกีฬาว่ายน้ำเหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ

จนทำให้วันนี้เธอกลายเป็นนักว่ายน้ำหญิงที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลคนหนึ่งของโลก

แต่เส้นทางการเป็นนักกีฬาอาชีพของเธอไม่ง่ายครับ

เธอเริ่มต้นด้วยการไม่ผ่านการตัดตัวไปแข่งโอลิมปิกรอบสุดท้ายที่ต้องการ 3 ลำดับ

แต่เธอเข้าลำดับที่ 4…แต่นั่นไม่ทำให้เธอปล่อยมือหรือยอมแพ้จากกีฬาที่เธอรัก

จนในปี 1996 ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ที่แอตแลนตา จอร์เจีย

ความพยายามเธอก็ประสบความสำเร็จ

เธอกลายเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกของโลกที่สามารถคว้า 4 เหรียญทอง

ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งเดียว

แต่หลังจากนั้นมันก็มีแบบทดสอบมาทดสอบเธออีกครั้ง

เธอพบกับอาการบาดเจ็บที่เรื้อรังจนต้องเข้าทำการผ่าตัดหลายหลายครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นที่หัวไหล่และแผ่นหลัง

ด้วยหัวใจนักสู้ของเธอก็พาเธอหวนคืนกลับสู่สระอีกครั้ง

พร้อมกับรางวัลตอบแทนความพยายามของเธอในโอลิมปิกปี 2000

เธอคว้ามาอีก 2 เหรียญทอง และนั่นคือ 2 เหรียญทองสุดท้ายของเธอ

ก่อนที่เธอจะตัดสินใจอำลาจากสระ

แต่เธอก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการกีฬาเพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตเธอและสิ่งที่เธอรัก

ไม่ว่าจะเป็นผู้บรรยายกีฬาทางสถานีวิทยุหรือเป็นโค้ชสอนว่ายน้ำ

และแล้วเธอก็พบแบบทดสอบอีกครั้ง

ซึ่งเธอกล่าวว่าไม่รู้จะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเธอรึเปล่า

เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขั้นรุนแรงทำให้เธอเกือบเป็นอัมพาต

ด้วยกำลังใจที่เธอพยายามที่จะต่อสู้กับมันอีกครั้ง

เธอก็สามารถกลับมายืนด้วยเท้าของตัวเธอเองอีกครั้ง

หลังจากการรักษาต่อเนื่องยาวนานเกือบ 1 ปี

ชีวิตของเราเราไม่มีทางรู้หรอกครับว่า

มันจะมีแบบทดสอบ มาทดสอบเรากี่ครั้ง

และการทดสอบครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่

เรามีหน้าที่ทำมันให้ดีที่สุด แม้จะไม่ผ่านในครั้งแรก เราก็จะมีโอกาสแก้ตัว ไม่จำกัด

ตราบใดก็ตามที่เรายังไม่ยอมแพ้

และอีกสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเธอ มันอาจจะบอกเราได้ว่า

ในยุคที่หลายๆคนพยายามจะไขว่คว้าตามหาเพื่อทำสิ่งที่ตัวเองรัก

บางครั้งมันอาจจะมีวิธีง่ายกว่านั้น

เพียงหากเราจำเป็นจะต้องทําอะไรสักอย่างในวันนี้ ด้วยหน้าที่หรือความจำเป็น

ถ้าเราเรียนรู้ที่จะรักมัน ท้ายสุดเราอาจจะพบสิ่งที่เรารัก

โดยที่ไม่ต้องไปค้นหาจากที่ไหนเลยก็เป็นได้นะครับ