หญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปี
ขึ้นมาบนเครื่องบินแล้วพบว่าที่นั่งใกล้ๆเธอเป็นชายชาวผิวดำคนหนึ่ง
“ทำไมมันถึงแย่แบบนี้” เธอตะโกน
พร้อมเรียกให้พนักงานต้อนรับหญิงมาพบเธอ
“ฉันไม่สบายใจที่ฉันต้องนั่งข้างผู้ชายผิวดำคนนี้ เธอต้องหาที่นั่งใหม่ให้ฉันเดี๋ยวนี้
มีที่ว่างที่อื่นให้ฉันย้ายไปนั่งไหม?”
พนักงานต้อนรับหญิง ตอบอย่างสุภาพ
“ใจเย็นค่ะ ดิฉันต้องขออภัยด้วยค่ะ เกรงว่าวันนี้ที่นั่งทุกที่ในชั้นประหยัดเต็มหมดแล้วค่ะ แต่ยังไงดิฉันจะพยายามนะค่ะว่ามีที่นั่งที่อื่นๆว่างอีกไหม”
ไม่นานนักพนักงานต้อนรับหญิงก็กลับมาพร้อมแจ้งว่า
“เสียใจด้วยค่ะคุณผู้หญิง ที่นั่งทุกที่ในชั้นประหยัดวันนี้เต็มหมดแล้วค่ะ
ดิฉันได้แจ้งเรื่องนี้ให้กัปตันทราบและได้รับการยืนยันว่ามีเพียงที่นั่งในชั้นเฟิร์สคลาสหรือชั้นหนึ่ง เท่านั้นที่ว่างในชั้นอื่นๆเต็มทุกที่แล้วค่ะ”
สร้างความไม่พอใจให้กับหญิงวัยกลางคนเป็นอย่างมากแต่ก่อนที่เธอจะกล่าวอะไรพนักงานต้อนรับก็กล่าวว่า
“อย่างที่ทราบบริษัทเราไม่มีนโยบายให้ผู้โดยสารจากชั้นประหยัดเลื่อนขึ้นไปนั่งในชั้น เฟิร์สคลาส แต่ในสถานการณ์เช่นนี้คงไม่ดีแน่ที่จะให้ผู้โดยสารนั่งข้างกับคนที่สร้างความอึดอัดและไม่พึงปรารถนาเช่นนี้”
พูดจบพนักงานต้อนรับหญิงจึงหันไปยังๆชายผิวดำ
“นั่นหมายความว่าเราขอให้คุณผู้ชายกรุณาเก็บกระเป๋าสัมภาระของท่าน
เราได้สำรองที่นั่งของท่านไว้ในชั้นเฟิร์สคลาสให้ท่านเป็นกรณีพิเศษแล้ว”
ผู้โดยสารที่อยู่บริเวณนั้นและได้ยินเรื่องราวตั้งแต่ต้นทั้งหมด
และกำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อได้ยินพนักงานต้อนรับหญิงกล่าวจบ
ต่างก็ลุกขึ้นปรบมือพร้อมกัน โดยที่ไม่ได้นัดหมาย
ผมได้ยินเรื่องเล่านี้มาหลายครั้งในหลายรูปแบบ จนทำให้ไม่แน่ใจในที่มาว่าเกิดขึ้นจริง
หรือเกิดขึ้นกับสายการบินใด
ผมไม่ได้บอกว่าการตัดสินใจแก้ปัญหาครั้งนี้ถูกต้องหรือดีที่สุด
แต่เหนือสิ่งใด ผมคิดว่าวิธีการแก้ปัญหาครั้งนี้
ของลูกเรือและกัปตันน่าสนใจ
เพราะหลายๆครั้งที่ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน
วิธีการแก้ปัญหาอาจเป็นเพียงแค่ปกป้องความถูกต้องให้ดำรงอยู่
เพียงเท่านั้นจริงๆ…
#เรื่องราวดีๆอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ
กัปตันหมี 