เด็กชายคนนี้มีทางรอดไหม?
ถ้ามีวิธีการคืออะไร?
เรื่องนี้ Richika Jain ซึ่งเป็นผู้เขียนได้เฉลยไว้น่าสนใจทีเดียวครับ
เธอเสนอทางรอดของเด็กชายไว้ดังนี้
ใช้มือข้างหนึ่งเอื้อมมือไปจับงูแล้วขว้างไปที่สิงโต ซึ่งอาจทำให้สิงโตตกใจแล้ววิ่งถอยไป
รีบลงมาจากต้นไม้หยิบปืนขึ้นมายิงสิงโตและจัดการกับจระเข้ซะ
ดูเป็นวิธีการที่ดีนะครับ
ส่วนตัวผมอ่านแล้วก็ยิ้มชื่นชมในวิธีการพยายามหาทางออก
แต่ก็นั่นแหละมันอาจจะล้มเหลวหรือสำเร็จก็เป็นไปได้ทั้ง 2 แบบ
แล้วทุกท่านหละครับมีทางออกที่ดีกว่านี้ไหม
สำหรับผมมีทางออกที่ผมคิดว่าดีมานำเสนอครับ
เริ่มแรกต้องเปลี่ยนคำถามจากวิธีการหาทางรอดคืออะไร?
เป็นคำถามใหม่ที่ต้องถามตัวเองว่า“เราพาตัวเองมาถึงจุดจุดนี้ได้อย่างไร?”
สถานการณ์ในภาพนี้ผมใช้คำว่า”จนมุม”ครับหรือที่หลายคนอาจเรียกว่า”ทางตัน”
คำถามที่น่าสนใจคือทำไมเราจึงยอมให้ตัวเองมาถึงจุดนี้?
เริ่มตั้งแต่เด็กคนนี้เข้ามาในป่าที่อันตรายนี้ทำไม?
ทำไมเขาถึงมาลำพังเพียงคนเดียวไม่มีคนคอยช่วยเหลือ เขาไม่รู้เลยเหรอว่าป่านี้มีอันตราย?
อาวุธปืนที่เขามีทำไมเขาไม่ใช้ประโยชน์กับมัน? อาจจะใช้ยิงขู่หรือป้องกันตัว
ทำไมต้องเป็นต้นไม้ต้นนี้มีต้นอื่นอีกหรือเปล่า?
…………
ก่อนชีวิตเราจะมาถึงทางตันมันไม่ง่ายนะครับ
มันต้องผ่านการตัดสินใจที่ล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน
ที่น่าเศร้าก็คือมีคนจำนวนไม่น้อย นำตัวเองมาถึงจุดจบหรือทางตันนี้ได้
โดยการปล่อยทิ้งโอกาสที่จะแก้ไขและเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมจึงคิดว่าคำถามที่เราควรถามตัวเองมากกว่าการที่เราจะเอาตัวรอดในสถานการณ์นี้อย่างไร
ก็คือการที่จะทำอย่างไรไม่ให้ตัวเองมาถึงสถานการณ์เช่นนี้ต่างหาก
ในเส้นทางที่มันผิดพลาด ลองมองย้อนไปดูสิครับ
จะพบว่ามันมีทาง u turn หรือทางกลับรถให้เราได้กลับใจนับครั้งไม่ถ้วน
ขึ้นอยู่กับเราแล้วละครับ ว่าเราจะยอมให้ชีวิตเดินทางมาถึงต้นไม้ต้นนี้ เหมือนเด็กชายคนนี้หรือไม่?
#เรื่องราวดีดๆอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ
Story by : Richika Jain