ถ้ากล้าที่จะฝัน

ถ้ากล้าที่จะฝัน
ความมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นจริง

วันสองวันที่ผ่านมานี้
มีข่าวต่างประเทศอยู่ข่าวหนึ่งครับ
ที่อาจจะไม่ได้เป็นที่สนใจมากนักในเมืองไทย
แต่มันคือหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลกเลยครับ

ด้วยความกล้าที่จะคิดและกล้าลงมือทำ
จึงสามารถเอาชนะคำว่า “เป็นไปไม่ได้”
ของใครหลายๆคน
ผู้ชายที่ชื่อว่า Elon Musk
(Tony Stark ในภาพยนต์ Iron Man ก็มีที่มาจากชีวิตของ
Elon Musk นี่แหละครับ)
ซีอีโอของ SpaceX และ Tesla
เค้าเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลกใบนี้

การทดลองส่งจรวด Falcon Heavy
ที่มีแรงขับมหาศาล
แรงขับเท่ากับเครื่องบินจัมโบ้เจท 18 ลำ!!
ถือเป็นจรวดที่มีแรงขับมากที่สุด
เท่าที่มนุษย์เคยสร้างมันมา

ภารกิจคือการนำเจ้ารถยนต์ Tesla Roadster
ส่งเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคาร

ปกติจรวดความดันสูงเมื่อถูกส่งออกไปแล้ว
ตัวจรวดก็จะตกลงทะเลเป็นขยะไป

แต่ภาพที่ปรากฏต่อหน้าต่อสายตาคนทั้งโลก
คือจรวดทั้ง 2 ลำ
กลับมาจอดในตำแหน่งของมันอย่างแม่นยำเหลือเชื่อ

ผมนั่งมองการถ่ายทอดการส่งจรวด
ราวกับว่านี่มันเกิดขึ้นในภาพยนตร์ไซไฟเรื่องหนึ่ง
แต่มันเกิดขึ้นจริงแล้วครับ
ด้วยมันสมองและการไม่ยอมแพ้ของผู้ชายคนหนึ่ง

ต่อไปนี้ผมเชื่อว่าการเดินทางของมนุษย์
จะถูกปฏิวัติเปลี่ยนใหม่อย่างสิ้นเชิง

Elon Musk บอกว่าอีกไม่นานเราจะเห็นการเดินทางในแนวดิ่ง
จะเดินทางไปที่ไหนในโลกนี้
เชื่อว่าใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเราก็เดินทางข้ามโลกสำเร็จ

ถึงแม้ว่าการทดลองครั้งนี้จะมีข้อผิดพลาดบ้างบางประการ
แต่นี่คือก้าวสำคัญของมวลมนุษยชาติครับ

อีกไม่นานการโดยสารบนเครื่องบินก็จะเปลี่ยนไป
ผมเชื่อว่าการเดินทางไปทานข้าวกลางวันที่มหานครนิวยอร์กแล้วกลับมาทานข้าวเย็นที่เมืองไทยจะเป็นไปได้ในอีกไม่ช้านี้

จับตาการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ให้ดีครับ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลกนี้
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อต้านมัน
จงเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้น

เห็นศักยภาพของสมองมนุษย์หรือยังครับ
ถ้าสมองเขามีศักยภาพ…เราก็ต้องมีเช่นกัน

ว่าแต่เราใช้มันเต็มประสิทธิภาพแล้วหรือยังครับ?

ไม่ต้องถึงกับส่งจรวดไปดาวอังคาร

แค่ส่งตัวเองให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ ให้ไปไกลกว่าที่เคยไป
เท่านี้เราก็เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ให้กับชีวิตเราแล้วหละครับ

พร้อมขึ้นแท่นปล่อยจรวด
ให้กับตัวเองแล้วหรือยังครับ?

รออะไรหละครับ
นับถอยหลังกันเลย…….

9 8 7 6 5 4 3 2 1……..Go!!!!