“คุณค่าที่คู่ควร”

คุณจะรู้สึกอย่างไรครับถ้ามหาเศรษฐีระดับแสนล้านอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์
จะสั่งอาหารแฮมเบอร์เกอร์ ,เมนูเดิมๆ วนเวียนกันไปเพียง 3 เมนูจากแมคโดนัล ในทุกเช้า
ถ้าวันไหนหุ้นขึ้นอาจจะฉลองสักหน่อยด้วยการสั่งเมนูพิเศษในราคาประมาณ 3.17เหรียญ(ร้อยกว่าบาท) เป็นการฉลอง

คุณคงคิดว่า"เพี้ยนไปแล้ว 
รวยขนาดนี้จะเก็บเงินไว้ทำไม"

แล้วถ้าเรารู้ว่าอภิมหาเศรษฐีคนอื่นๆเช่น อิงวาร์ คัมพราด ผู้ก่อตั้ง IKEA ใช้รถวอลโว่ 240 GLมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เพิ่งจะมาเปลี่ยนเพราะเพื่อนเตือนว่ามันอันตรายเกินไปสำหรับการใช้รถสภาพเก่าเช่นนี้ ,นี่ก็คงเพี้ยนอีกคนใช่ไหมครับ
ลองมาดูต่อ พ่อหนุ่มมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ใช้รถ Acura TSX มูลค่าราคาเพียง $30,000 (เก้าแสนกว่าบาทไม่ถึงล้านดี) แล้วยังมีคุณอลิส, Alice walton ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในโลกคนหนึ่ง เจ้าแม่ Walmart ที่เธอขับรถ Ford F150 King Ranchปี 2006 , ด้วยเหตุผลที่น่าประทับใจว่าคุณพ่อของเธอ Sam walton ใช้รถรุ่นนี้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เธอจึงปรารถนาที่จะใช้รถรุ่นนี้ต่อไป

แต่นี่ไม่ใช่ความเพี้ยน
หรือการเขียมประหยัดซะจนไม่ใช้เงิน

มันเป็นเรื่องของ “Value
หรือคุณค่าที่เรายึดถือ ล้วนๆครับ
นอกจาก Value จะเป็นตัวกำหนด Visionแล้ว Value ยัง กำหนด Behavior หรือพฤติกรรมของเราด้วย
มหาเศรษฐีเหล่านี้ “คุณค่าในชีวิต”ของเขาไม่ใช่อยู่ที่ตัวเงินหรือทรัพย์สมบัติครับ คุณค่าที่เขาปรารถนาคือความสำเร็จในสิ่งที่เขาทำต่างหาก
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ลุ่มหลงและมีความสุขกับการเอาชนะตลาดและการทำหุ้นของเขาให้ได้กำไร..
เช่นเดียวกับนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ มองว่าเงินเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของเขาให้สำเร็จเท่านั้น ซึ่งความสำเร็จ ในทางธุรกิจคือคุณค่าสูงสุดที่เขาปรารถนาต่างหาก
รวมทั้งคุณอลิสที่มองคุณค่าที่เธอยึดถือในเรื่องของครอบครัวของเธอ ,คุณพ่อของเธอ
คุณค่าเหล่านี้แสดงออกเป็นพฤติกรรม ในทุกๆด้านของชีวิตไม่เว้นแม้กระทั่งพฤติกรรมการใช้รถการเลือกกินอาหาร และเรื่องอื่นๆ
เช่นถ้าคุณค่าในชีวิตที่เรายึดถือคือความปลอดภัยเราจะเลือกรถที่มีสมรรถนะความปลอดภัยสูงเป็นอันดับแรก ถ้าเรามองเรื่องครอบครัวเป็นหลักเราอาจจะเลือกรถ ที่เป็นสเตชั่นแวกอนหรือรถแวน เพื่อให้ครอบครัวเรานั่งสบาย
ในการทำงานหละ…
ถ้าคุณค่าที่เรายึดถือคือเรื่องของครอบครัว เลิกงานเสร็จเราจะรีบกลับบ้านตรงไปใช้เวลากับเขาเหล่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่มี Value ในเรื่องครอบครัว จะทิ้งหรือไม่ให้ความสำคัญในเรื่องการทำงานนะครับ เพราะเขาตระหนักดีว่าการทำงาน เป็นกุญแจสำคัญที่จะสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในครอบครัวของเขา
เพราะฉะนั้นการมี Value หรือคุณค่าที่เรายึดถือไม่ได้หมายถึงการทิ้งสิ่งหนึ่งเพื่อไปทำอีกสิ่งหนึ่งแต่เป็นการทำทุกสิ่งให้สอดคล้องกันจัดลำดับความสำคัญเพื่อก้าวไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตที่เรายึดถือนั่นคือ“คุณค่าของชีวิต” ของเรานั่นเอง