วันจันทร์ที่ผ่านมาคือวันครบ 15 ปีแล้วสำหรับเที่ยวบินสุดท้ายของเครื่องบินโดยสารที่เชื่อว่าเร็วที่สุดในโลก
“คองคอร์ด #MajesticBird ราชันแห่งฟากฟ้า”
15 ปีที่ยังไม่มีใครทำลายสถิติการบินด้วยความเร็วเหนือเสียง 2 เท่าหรือ Mach 2
วันนี้ผมขอย้อนอดีตเล่าให้ฟังถึงความยิ่งใหญ่ของเครื่องบินคองคอร์ดกันนะครับ
> คองคอร์ดผลิตและพัฒนาโดยอังกฤษและฝรั่งเศส บินครั้งแรกในปี 2512 และใช้เวลาทดสอบอีก 7 ปีจึงนำมาบินเพื่อการพาณิชย์เป็นครั้งแรกในปี 2519
>เที่ยวบินสุดท้ายทำการบินในวันที่ 26 พฤศจิกายนปี2546 เส้นทางบินนิวยอร์ก-ลอนดอน รวมเวลาความยิ่งใหญ่บนฟากฟ้า 27 ปี
>ด้วยความเร็วเหนือเสียงถึง 2 เท่า เส้นทางนิวยอร์กลอนดอนจึงใช้เวลาเดินทางที่ไม่น่าเชื่อคือเพียง 3 ชั่วโมง!!
>ด้วยหลักอากาศพลศาสตร์ส่วนหัวของเครื่องบินจึงยาวกว่าปกติทำให้ทัศนวิสัยการมองของนักบินไม่ดีเครื่องบินจึงถูกออกแบบมาให้สามารถกดส่วนปลาย
ของหัวเครื่องบินลงได้เพื่อให้นักบินสามารถมองเห็น ในขณะที่ทำการลงจอด ,วิ่งขึ้นและแท็กซี่
>อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์
ของคองคอร์ด คือเที่ยวบิน 4590 ของ Air France เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2543 หลังทำการวิ่งขึ้นจากสนามบินใกล้กรุงปารีสครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 113 คน
แต่สาเหตุการตกไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของคองคอร์ด การสอบสวนสรุปว่า…
เครื่องบินที่วิ่งขึ้นก่อนคือเครื่องบิน DC 10 ของสายการบิน Continental Airlines ได้ทำชิ้นส่วนโลหะหลุดออกมาบนพื้นรันเวย์ ทำให้ไปกระแทกล้อด้านซ้ายของคองคอร์ดทำให้ยางแตก
ชิ้นส่วนยางจึงกระเด็นเข้าไปในเครื่องยนต์หมายเลข 1 ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้นักบินพยายามนำเครื่องบินลงสนามบินใกล้เคียงแต่เครื่องสูญเสียการทรงตัว
และตกกระแทกพื้น
อุบัติเหตุครั้งนั้นมีผู้โดยสารเสียชีวิต 100 คนลูกเรือ 9 คนและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินอีก 4 คนเสียชีวิต
หลังจากนั้นผู้ใช้บริการก็น้อยลง รวมทั้งมีเหตุการณ์ 9/11 เกิดขึ้นด้วย ความคุ้มทุนจึงเป็นประเด็นสำคัญทำให้สายการบินทั้งสองต้องยกเลิกการให้บริการอย่างถาวร
>คองคอร์ดเคยมาเยี่ยมเยือนเมืองไทยหลายครั้ง
เช่นมาลงจอดที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินเชียงใหม่ หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นคงจำได้ดี เสียงดังของคองคอร์ดทำให้กระจกของสนามบินดอนเมืองถึงกับแตกร้าวเลยทีเดียว
>คองคอร์ดเป็นเครื่องบินแบบ narrow body ที่มีห้องโดยสารที่ขนาดเล็กและแคบ จุที่นั่งได้เพียง 100 ที่
ชั้นธุรกิจและชั้นประหยัดมีความแตกต่างกันน้อยมาก
>หน้าต่างห้องโดยสารของเครื่องบินคอนคอร์ดมีขนาดเล็กกว่าปกติเนื่องจากว่าต้องออกแบบมาเพื่อให้ทนกับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 117 องศา ในขณะที่เครื่องบินบินอยู่ในช่วง super sonic หรือความเร็วเหนือเสียง
>น่าประหลาดใจที่ห้องนักบินหรือ Cockpit ไม่มีอุปกรณ์ที่เป็นดิจิตอลเลย ไม่เหมือนกับเครื่องบินในปัจจุบัน ภาพภายในห้องนักบินของคองคอร์ดจึงเป็นภาพที่คลาสสิคมาก
>ตั๋วเครื่องบินไปกลับนิวยอร์ก-ลอนดอนของคองคอร์ด มีราคา 10,000 เหรียญหรือประมาณ 300,000 กว่าบาท
>เพดานบินของของคองคอร์ด สามารถทำได้ถึงความสูง ได้เกิน 50,000 กว่าฟุตในขณะเครื่องบินทั่วไปบินได้เพียง 40,000 กว่าฟุต
>คองคอร์ด เป็นเครื่องบินโดยสาร
“เครื่องแรกและเครื่องเดียว” ที่เป็น Turbo Jet Engine ที่มี After Burner แบบที่ใช้ในเครื่องบินรบ
………………..
ปัจจุบันราชันย์แห่งฟากฟ้าจอดสงบนิ่งอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ..
ทิ้งไว้เพียงประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่
และสถิติที่ไม่มีใครอาจหาญมาทำลาย