เที่ยวบินสุดสำคัญในวันที่ไม่มีผู้โดยสาร
วันนี้ใครอยู่ที่แถวๆลาดกระบัง หรือบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ มองไปที่ท้องฟ้าอาจจะเห็นเครื่องบินการบินไทยทะยานสู่ฟ้าอีกครั้งครับ!!
เป็นเที่ยวบินพิเศษที่ไม่มีผู้โดยสาร แต่บริเวณใต้ท้องเครื่องที่เราเรียกว่า Cargo Compartment บรรจุอัดแน่นเต็มไปด้วยสินค้า ที่เราจะบินไปส่งได้ให้กับลูกค้าของเรา ในยามวิกฤตที่ไม่มีผู้โดยสาร การขนส่งสินค้าเป็นโอกาสหนึ่งในท่ามกลางวิกฤตที่มืดมนครั้งนี้
โดยปกติเครื่องบินโดยสารที่พาทุกท่านเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ก็มีภาระกิจขนส่งสินค้าเป็นประจำอยู่แล้วปริมาณสินค้าที่ทุกสายการบินขนส่งโดยการใช้เครื่องบินโดยสารนั้น ว่ากันว่ามากเกินกว่าครึ่งของการขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่เหลือก็จะเป็นการขนส่งสินค้าโดยเครื่องบิน Cargo หรือเครื่องบินที่ไม่มีผู้โดยสารขนส่งสินค้าล้วนๆ ในวันที่เครื่องบินโดยสารหลายสายการบินหยุดบินทำให้ปริมาณ Cargo ตกค้าง
จึงเป็นที่มาของการทะยานสู่ฟ้าอีกครั้งของการบินไทยในวันนี้

เที่ยวบินนี้มีความพิเศษและสำคัญ อยู่ 3 ประการ
ในความรู้สึกของผมนะครับ
ความสำคัญประการที่ 1.
การหารายได้เข้าบริษัทในยามวิกฤต การลดค่าใช้จ่าย เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดก็เป็นหนทางหนึ่งครับที่หลายธุรกิจต้องปรับตัว แต่การพยายามหารายได้ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องยากก็เป็นสิ่งที่เราต้องมองหาโอกาส
จำไว้เสมอ..ว่าในยามที่ความมืดมิดเข้าปกคลุมจะมีใครบางคนมองหาแสงสว่างในนั้นเสมอ เราควรเป็นหนึ่งในคนที่มองหาโอกาสและแสงสว่างนั้นครับ
การบรรทุกสินค้าถ้าเต็มความจุเราสามารถขนส่งสินค้าได้เกือบ 40 ตันเลยทีเดียวครับ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมปล่อยให้ห้องโดยสารว่างเปล่า ไม่เอาสินค้า บรรทุกเข้าไปวางบนเก้าอี้ผู้โดยสารหละ?
ผมเรียนว่ามันมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะนะครับ
–เริ่มจากประตูเครื่องบินถูกออกแบบมาให้ให้ใช้สำหรับการ เดินทางสำหรับผู้โดยสารเท่านั้นจึงเป็นอุปสรรคในการขนส่งสินค้าพอสมควร
–การวางน้ำหนักกระจายในห้องโดยสารมีผลกับ Stability และ CG (Center of Gravity) ของเครื่อบินซึ่งตรงนี้มีความสำคัญมากในการบินมีผลถึงความปลอดภัยเลยทีเดียว
–สินค้าบางอย่างอาจมีอันตราย เมื่อโดนความร้อนเกิดการลุกไหม้ จะส่งผลโดยตรงกับนักบินหรือลูกเรือที่อยู่บนเครื่อง
ผมไม่ได้ปิดโอกาสว่ามันทำไม่ได้นะครับ แต่คงจะต้องมีการศึกษาปรับแต่งและทำการขออนุญาตใช้ขั้นตอนพอสมควรทีเดียว สิ่งที่ได้ทำได้ในเวลานี้คือการบรรทุกสัมภาระให้เต็มกับปริมาตรบรรจุภายใต้ท้องเครื่องครับ
ความสำคัญประการที่ 2.
หลายท่านอาจจะสงสัยว่าในช่วงเวลาที่การบินไทยหยุดให้บริการกว่า 2 เดือนพวกเรานักบินทำอะไรครับคำตอบสั้นๆง่ายๆคือพวกเรา “เตรียมตัว”เตรียมความพร้อมในการกลับมาบินเสมอ
อาชีพนักบินมีความพิเศษคือ เราไม่สามารถจะหยุดบินได้เป็นระยะเวลายาวนานเกินกว่า 1 เดือนครับ
มันจะต้องมี Recency หรืออย่างน้อย 1 เดือนผู้ที่เป็นกัปตันจะต้องได้บังคับอากาศยานขึ้นลงด้วยตัวเองอย่างน้อย 1 ครั้ง และยังมีกฎระเบียบและอื่นๆอีกมากมาย ***ฉะนั้นการบินครั้งนี้จึงมีความสำคัญ
ไม่ทำให้เราขาดคุณสมบัติ (หรือเปรียบเทียบง่ายๆไม่ขาดเรียนเกินกว่า 30 วัน😊) นักบินกลุ่มแรกจึงเป็นครูการบินครับ เมื่อคนกลุ่มนี้ไม่ขาดคุณสมบัติตามกฎระเบียบการบินแล้ว ที่นี้พวกเขาเองก็สามารถที่จะมา ช่วยฝึกนักบินที่เหลือในวันที่พวกเขากลับมาบิน ให้มีศักย์ และคุณสมบัติทางการบินครบถ้วน
ตามกฎระเบียบที่กฎการบินระบุไว้
นักบินคนอื่นไม่ได้บินในช่วงเวลานี้สิ่งที่เราทำก็คือการ อัพเดทอ่านหนังสือหาความรู้ใหม่ๆ
นี่คือความมั่นใจที่เราอยากจะส่งมอบให้กับผู้โดยสารของเราทุกคน ที่ท่านกรุณาให้แรงใจกำลังใจว่าท่านจะกลับมาใช้บริการกับเรา เราก็ต้องสร้างความมั่นใจให้กับท่านว่า…วันที่ท่านกลับมาเราจะบินได้ด้วยความปลอดภัยและความพร้อมสูงสุด

ความสำคัญประการที่ 3.
ข้อนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวผมนะครับ
มันคือความรู้สึกทางจิตใจครับ วันนี้ได้เห็นเครื่องบินการบินไทยทะยานสู่ฟ้าอีกครั้ง มันเหมือนเป็นสัญญาณที่บอกให้พวกเรารู้ว่าการบินไทยยังเป็น
“บริษัทที่มีลมหายใจที่แข็งแรง”ถึงแม้ว่าจะแผ่วเบาไปบ้างในช่วงเวลานี้ แต่เรายังมีชีวิต,มีความพร้อมที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความแข็งแกร่งในฐานะสายการบินแห่งชาติ สายการบินของคนไทยทุกคน

สองไฟท์เล็กๆในวันนี้ กับภาระกิจที่ยิ่งใหญ่
ส่งแรงใจไปให้กับพวกเขาปฏิบัติภารกิจสำคัญครั้งนี้ให้สำเร็จ กับนักบินทั้ง 4 ท่าน ของเครื่องบินโบอิ้ง 777 และนักบินอีก 4 ท่านของเครื่องบินแอร์บัส A330
ที่จะทะยานสู่ฟ้าวันนี้พร้อมกันนะครับ
กัปตันหมี
ภาพสวยๆ จากครูมอมแมม
ครูการบินของผม ผู้ที่มีฝีมือการถ่ายภาพสุดยอด สถานการณ์แบบนี้ผมคิดถึงครูจังเลยครับ
หวังว่าครูคงสบายดีนะครับ