ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันนี้ อาจยับยั้งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในอนาคต

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันนี้

อาจยับยั้งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในอนาคต

 

 

เราได้ยินได้ฟังเรื่องการเปลี่ยนภาวะวิกฤตเป็นโอกาสมามากมายหลายต่อหลายครั้ง ถ้าหากจะมองหาตัวอย่างที่จับต้องได้ เราจะพบหลายตัวอย่างหลายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ในช่วงเวลาของการระบาดของ COVID-19

ใช่แล้วครับผมเรียกมันว่า”ปรากฏการณ์” มันเป็นปรากฏการณ์ที่ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟูพร้อมกัน

ทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

เราได้เห็นการฟื้นตัวของท้องทะเล ได้เห็นน้ำทะเลสีใสหาดทรายขาวปราศจากขยะจากน้ำมือมนุษย์

เราเห็นเต่ามะเฟืองออกมาวางไข่

เราได้เห็นนกฟลามิงโก้จำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในอินเดีย เราได้เห็นหมีสีน้ำตาลที่ว่ากันว่าไม่เคยปรากฏมาให้มนุษย์ได้เห็นเป็นเวลากว่า 100 ปี

ในสเปน นี่คือตัวอย่างของการเยียวยาตัวเองของธรรมชาติ..

..ผมยังมีอีกหนึ่งตัวอย่างของการเยียวยาธรรมชาติโดยฝีมือของมนุษย์ครับ..

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นความตั้งใจก็ตาม

ไม่น่าเชื่อเลยครับ มีรายงานข่าวจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA: International Energy Agency) รายงานข่าวว่า COVID-19

ทำให้ปริมาณการปล่อยมลพิษลดลงในปี 2563 !!

โดยรายงานของ IEA กล่าวว่าความต้องการพลังงานลดลงอย่างมากในปี 2020 เนื่องจากมาตรการล็อคดาวน์ของหลายประเทศ และนี่เองทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะทำให้การปล่อยก๊าชมลพิษจากการใช้พลังงานทั่วโลกลดลงร้อยละ 8 ในปีนี้เนื่องจากความต้องการถ่านหินน้ำมันและก๊าซที่ลดลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ที่มาข้อมูลนี้มาจาก Global Energy Review ของ IEA โดยวัดมาจากปริมาณการใช้พลังงานในช่วง 100 วันที่คนส่วนใหญ่ของโลกได้เข้าสู่การล็อคดาวน์

เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

คาดการณ์ว่าความต้องการพลังงานทั่วโลกจะลดลง 6% ในปี 2563 ซึ่งลดลงมากกว่าช่วงวิกฤตการเงินปี 2551 ถึงเจ็ดเท่าและนับเป็นการลดลงที่มากที่สุด ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา

การลดลงของความต้องการพลังงานครั้งนี้เทียบเท่ากับความต้องการพลังงานทั้งหมดของอินเดีย

ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับสามของโลก

ส่วนของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ก็พบว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐอเมริกาลดลงร้อยละ 9 และมีแนวโน้มลดลงร้อยละ 11 ในสหภาพยุโรป

“นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์โลกพลังงาน ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงที่สำคัญเกือบทั้งหมดลดลงอย่างมากโดยเฉพาะถ่านหินน้ำมันและก๊าซ”

Fatih Birol ผู้อำนวยการบริหาร IEA กล่าว

ในตัวเลขของการใช้พลังงานที่ลดลงอย่างน่าตกใจครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นโอกาสที่เราเรียกว่า

“การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” สู่แหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ เช่นลมและแสงอาทิตย์ ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 40% ของการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกหรือตั้งเป้าไว้ มากกว่า 6% เมื่อเทียบกับพลังงานจากถ่านหิน

ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติกำลังเข้าสู่ภาวะหดตัวของความต้องการอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างความต้องการพลังงานโดยรวมลดต่ำลงและโลกกำลังเพิ่มพลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียน” รายงานกล่าว

ความต้องการก๊าซธรรมชาติจะลดลงร้อยละ 5 ในปี 2020 หลังจากที่มีการเติบโตต่อเนื่องมาเป็นเวลานานนับทศวรรษ เมื่อเทียบกับปริมาณต้องการสูงสุดในปี 2018 การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินจะลดลงมากกว่าร้อยละ 10 ในปีนี้

โดยรวมแล้วการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานมีแนวโน้มลดลงเกือบร้อยละ 8 ซึ่งมันคือระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2010 เลยทีเดียว

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านี่จะเป็นการลดลงอย่างมากที่สุดเป็นประวัติการณ์มากกว่าปี 2009 ปีที่เกิดวิกฤตการเงินไปทั่วโลกถึง 6 เท่า

สหประชาชาติเคยกล่าวว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะต้องลดลงร้อยละ 7.6 ต่อปีจนถึงปี 2030 เพื่อหยุดภาวะโลกร้อนและจำกัดการเพิ่มของอุณหภูมิให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส (2.6 ฟาเรนไฮต์) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายที่สุด…

ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤติการระบาดของ COVID-19 มนุษย์ได้ปล่อยมลพิษทางพลังงานเพิ่มขึ้นทุกปี

ตัวเลขการลดลงของปีนี้ที่ 8% ในช่วงแรกของปี

มันอาจจะเป็นความหวังที่หลายคนเคยมองว่ายากที่จะเป็นจริง “ความหวังนี้อาจกำลังจะเกิดขึ้น..”

Richard Black ผู้อำนวยการหน่วยงานพลังงานและข่าวด้านสภาพภูมิอากาศแห่งสหราชอาณาจักรกล่าวถึงรายงานของ IEA ว่า

“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะยาวคือปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของสภาพภูมิอากาศโลก

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีสัญญาที่ดีจากผู้นำระดับประเทศและการเรียกร้องจากภาคธุรกิจสำหรับ แนวโน้มความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจพร้อมกันกับการเร่งให้มีการเปลี่ยนแปลงมาใช้พลังงานสะอาด “

“หากคำมั่นสัญญาเหล่านี้เป็นจริง …

วิกฤตก็จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่แท้จริง

สำหรับภาพรวมพลังงานโลก”

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นของการระบาดครั้งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่มนุษย์แลกมาเพื่อหยุดยั้ง”ความสูญเสียที่มีมูลค่าเหลือคณานับ” หากเรายังคงทำร้ายธรรมชาติต่อไป

ก็เป็นได้นะครับ

นี่คือตัวอย่างของคำว่า

“การเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสอย่างแท้จริง”

….

กัปตันหมี

 

กัปตันหมี