Emirates ลดจำนวนพนักงานลงกว่า 30,000 ตำแหน่ง

บทความที่ผ่านมาผมได้เขียนถึงผลงานที่น่าทึ่งของสายการบิน Emirates ที่ยังคงสร้างกำไรในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ในขณะที่สายการบินอื่นๆประสบภาวะวิกฤต
หลายคนจึงตั้งข้อสังเกตว่านี่อาจจะเป็นเพียงหน้าปกของหนังสือเล่มใหญ่ที่ภายในยังซ่อนวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
แล้วเค้าลางของเรื่องนี้ก็เริ่มเป็นจริงครับเมื่อสายการบิน Emirates ได้ออกมาประกาศเมื่อเร็วๆนี้ว่าพวกเขาจะลดจำนวนพนักงานลงกว่า 30,000 ตำแหน่ง จากจำนวนทั้งหมด 105,000 ตำแหน่งหรือกว่า 30%

เนื่องจากผลประกอบการหลังเดือนมีนาคมตกต่ำอย่างหนัก จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลประกอบการในไตรมาสแรกยังคงเป็นบวก เนื่องจากคิดรวมผลงานจากปี 2019 ที่ผ่านมา
และความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็มาถึง เมื่อรัฐบาล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ถูกร้องขอในการเพิ่มเงินสนับสนุนกับสายการบินแห่งชาติ นอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวว่าสายการบินเอมิเรตส์มีแผนจะปลดประจำการเจ้าวาฬยักษ์เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่
จุผู้โดยสารได้กว่า 500 ที่นั่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม
การออกมาตัดสินใจครั้งนี้เป็นการเร่งวันการยุติบทบาทของเครื่องบินในตำนานอย่างแอร์บัส A380 ที่เมื่อปีที่แล้วมีการประกาศข่าวช็อกวงการอุตสาหกรรมการบินโลกเมื่อแอร์บัสประกาศยุติการผลิตเครื่องบิน A380
สาเหตุหลักไม่ใช่ใครอื่นครับก็สายการบิน Emirates นี่แหละ ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่สุดแต่ตัดสินใจตัดสัมพันธ์อย่างไม่มีเยื่อใย ยุติโครงการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380 แล้วหันไปซบอกบริษัทผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่อย่างโบอิ้ง Emirates มีโครงการจะลดขนาดของเครื่องบินลงให้เป็นเครื่องบินขนาดกลางและขนาดเล็กที่บินได้ไกลขึ้น ตัวเลือกจึงตกอยู่ที่เครื่องบินโบอิ้ง 787 และเครื่องบินในตระกูล Boeing 777
รายงานข่าวแจ้งว่าสายการบิน Emirates ซึ่งถือว่าเป็นสายการบินให้บริการระยะไกลสายการบินใหญ่ที่สุดของโลก มีเครื่องบินแอร์บัส A380 ประจำการอยู่ถึง 115 ลำซึ่งถือว่าเป็นฝูงบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับแอร์บัส A380 และมีเครื่องบินของโบอิ้งอีก 155 ลำ

อุตสาหกรรมการบินกำลังพบกับเรื่องที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ สายการบินยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น สายการบินเอทิฮัดและ Emirates ต่างต้องระดมทุนอย่างฉุกเฉินหลังจากผลประกอบการดำดิ่งอย่างน่าใจหาย
ตัวเลขเม็ดเงินในการขายตั๋วของอุตสาหกรรมการบินที่คาดว่าจะสูญหายไปในปีนี้กว่า 3 แสนล้านเหรียญ US$ ทั้งสองสายการบินเห็นพ้องต้องกันว่าสายการบินทั่วโลกอาจถึงขั้นยุติกิจการกว่า 80% ถ้าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือและอัดฉีดสภาพคล่องจากแหล่งเงินทุนและรัฐบาลของประเทศต่างๆ
บาดแผลที่เกิดขึ้นสำหรับสายการบินทั่วโลกเริ่มเห็นชัดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมสายการบินบริติชแอร์เวย์ประกาศปลดพนักงาน 12,000 คนสายการบินต้นทุนต่ำอย่างไรอันแอร์ก็ประกาศปลดพนักงานกว่า 3,000 คน ข้ามมาฝั่งทวีปอเมริกา 4 Big 4 สายการบินขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกาก็ได้ประกาศให้พนักงานสมัครใจลาออกไปกว่า 1 แสนคน
คาดว่าผลกระทบในวงกว้างจะขยายตัวออกไปเรื่อยๆตราบใดก็ตามที่มนุษย์ยังไม่ค้นพบวัคซีน
การเดินทางในรูปแบบเดิม จำนวนผู้โดยสารปริมาณเท่าเดิมคงยากที่จะกลับมาภายปีนี้
นั่นถึงนั่นหมายถึงสายป่านของสายการบินคงต้องวัดกันที่ปริมาณเงินทุนที่ถูกอัดฉีดเข้าไป
ขนาดสายการบินที่เป็นเจ้าบุญทุ่มยังเอมิเรตส์ยังต้องการระดมทุนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครั้งนี้
….
กัปตันหมี
Ref & Photo