บันทึกการประกอบร่าง”ครั้งสุดท้าย”ของแอร์บัส A380

บันทึกการประกอบร่าง”ครั้งสุดท้าย”ของแอร์บัส A380

อีกสิ่งหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นตำนานสุดคลาสสิคมาก

และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของเครื่องบินแอร์บัส A380 เจ้าวาฬยักษ์ในใจของใครหลายๆคน

Cr : NBC Newswire

นั่นคือการขนส่งชิ้นส่วนของเครื่องบิน

ซึ่งแต่ละชิ้นส่วนมีขนาดใหญ่มหึมา ก่อนนำมาประกอบร่างที่โรงงานของแอร์บัสที่เมืองตูลูสในประเทศฝรั่งเศส เสน่ห์ของมันก็คือการเคลื่อนที่ของขบวนรถบรรทุกชิ้นส่วนขนาดใหญ่รวมถึงลำตัวของเครื่องบินแอร์บัส A380 ที่ค่อยๆคืบคลานผ่านถนนแคบๆผ่านเมืองขนาดเล็กในชนบทของฝรั่งเศสที่ชื่อว่า Levignac ด้วยเหตุที่ความกว้างของถนนไม่มากนัก สองข้างทางก็คือตึกอาคารบ้านเรือนของชาวบ้าน

 

ทำให้ขบวนรถต้องเคลื่อนที่ผ่านด้วยความระมัดระวังอย่างช้าๆ บางช่วงระยะห่างระหว่างชิ้นส่วนเครื่องบินกับผนังบ้านของชาวบ้านห่างกันแค่ 1 ฟุตกว่าๆ แต่นั่นคือการสร้างความผูกพันธ์กับชาวบ้านว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของการสร้างเครื่องบินขนาดใหญ่มหึมาในตำนานอย่างแอร์บัส A380

 

Christiane Inard หนึ่งในชาวบ้านของเมือง Levignac เธอกล่าวว่าเธอนั่งมอง ขบวนรถขนชิ้นส่วนเครื่องบินแอร์บัส A380 จากหน้าต่างในบ้านของเธอมาเป็นเวลา 16 ปีเต็มกับจำนวนขบวนรถ 300 เที่ยว มันคือสิ่งมหัศจรรย์และความประทับใจที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอที่ยากจะลืมเลือน

 

เมื่อวันพุธที่ผ่านมานี่คือขบวนรถขนส่งชิ้นส่วนอุปกรณ์ขนาดมหึมาเที่ยวสุดท้าย ก่อนที่เครื่องบินแอร์บัส A380 จะยุติตำนานความยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลา 14 ปีเต็มที่ให้บริการผู้โดยสารทั่วโลก

โดย A380 มีการผลิตสูงสุดในช่วงที่ได้รับความนิยมคือ 30 ลำต่อปีในช่วงปี 2012-2014 แต่หลังจากนั้นความนิยมก็ลดลงเรื่อยๆเนื่องจากตลาดไม่ต้องการเครื่องบิน 4 เครื่องยนต์ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันค่อนข้างสูงและการเดินทางโดยเครื่องบินขนาดใหญ่คนผู้โดยสารจำนวนมากถูกทดแทนด้วยการใช้เครื่องบินโดยสารขนาดกลางและเล็กที่มีความคล่องตัวมีขนาด 2 เครื่องยนต์บินได้ไกลและประหยัดขึ้นอย่างแอร์บัส A350 หรือ Boeing 787 แอร์บัสจึงจำเป็นต้องออกมาประกาศถึงข่าวที่สร้างความเจ็บปวดให้กับพวกเขา นั่นคือการยุติการผลิตเครื่องบินแอร์บัส A380 อย่างถาวรในปี 2021 ทิ้งทุกอย่างไว้เป็นตำนานความยิ่งใหญ่ของเครื่องบินโดยสาร 2 ชั้นที่จุโดยสารได้เกินกว่า 500 คน

การขนส่งชิ้นส่วน A 380 ผ่อนเมือง L’Isle-Jourdain ใกล้กับ Toulouse, ฝรั่งเศส. Cr: Reuters

 

ในปี 2000 บริษัทแอร์บัส ได้เดิมพันครั้งสำคัญกับการตัดสินใจเริ่มต้นโครงการในการผลิตเครื่องบินแอร์บัส A380 โดยใช้เงินเริ่มต้นลงทุนในโครงการนี้ เป็นเงินกว่า 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

สายการบินแรกที่ได้ครอบครองแอร์บัส A380 คือสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ โดยได้ส่งมอบในเดือนตุลาคมปี 2007

PHOTO: Singapore Airlines

 

ระหว่างที่ขบวนรถขนชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องบินแอร์บัส A380 ลำสุดท้าย(ของสายการบินเอมิเรตส์)

ที่นำจะนำไปประกอบร่างรวมกันเป็นเครื่องบินแอร์บัส A380 ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านเมือง Levignac เมืองที่ถูกกล่าวถึงเป็นประวัติศาสตร์ร่วมกับความยิ่งใหญ่ของเครื่องบินแอร์บัส A380 บรรดาเจ้าหน้าที่คนงานของโรงงาน ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินและชาวบ้านได้ออกมารวมตัวกันยืนริมถนนและปรบมือตลอดเส้นทางที่ขบวนรถเคลื่อนผ่าน รถคันหนึ่งในขบวนได้ติดป้ายผ้าขนาดใหญ่มีใจความว่า Goodbye Saint-Nazaire ซึ่งคือชื่อของโรงงานแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสที่ได้ผลิตชิ้นส่วนของเครื่องบินแอร์บัส A380

ขบวนรถขนลำตัวของ Airbus A380 superjumbo jet กำลังเคลื่อนที่ช้าๆผ่านเมือง Levignac, ฝรั่งเศสเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (Reuters photo)

การยุติบทบาทของแอร์บัส A380 หลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์ว่านี่คือบทเรียนราคาแพงของบริษัทแอร์บัส อินดัสตรี กับการลงทุนเม็ดเงินมหาศาลแต่ต้องยุติ บทบาทของเครื่องบินในตำนานเร็วกว่าเวลาอันควร

แต่ทีมวิศวกร,ทีมผู้ผลิตของแอร์บัสได้ออกมาแสดงความเห็นที่น่าสนใจว่า A380 คือจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างชาติในยุโรปหลายชาติไม่ว่าจะเป็นสเปน,เยอรมนี,อังกฤษฝรั่งเศส ความร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การรวมยุโรปเป็นหนึ่งเดียวเพื่อภารกิจสำคัญครั้งนี้ ซึ่งการร่วมมือครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดคุณูปการต่างๆเกิดขึ้นอย่างมากมายทั้งในเรื่องของอุตสาหกรรมการบินและความร่วมมือในด้านต่างๆ

และพวกเขายังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า พวกเขาเชื่อมั่นอย่างที่สุดว่าถ้าไม่มีแอร์บัส A380 โครงการผลิตเครื่องบินที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ก็จะไม่มี Airbus industries บริษัทที่แข็งแกร่งในวันนี้ และจะไม่มีเครื่องบินดีๆอย่างแอร์บัส A350 ซึ่งได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีรวมถึงประสบการณ์การเรียนรู้ที่ได้มาจากเครื่องบินแอร์บัส A380

“ไม่มีแอร์บัส A380 ก็จะไม่มีบริษัทแอร์บัสอินดัสตรีในวันนี้” นี่คือความรู้สึกจากใจของคนแอร์บัส

 

16 ปีแล้วที่เมือง Levignac เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างนวัตกรรมทางการบินที่ยิ่งใหญ่อย่างแอร์บัส A380 วันนี้ทุกอย่างกลับมาเงียบเหงาขบวนรถขนส่งอุปกรณ์ขนาดมหึมาจะไม่มีปรากฏให้เห็นอีกแล้ว

มันคือตำนานที่มีชีวิต…ผมชื่อว่าเรายังคงได้เห็นเครื่องบินแอร์บัส A380 บินให้บริการผู้โดยสารทั่วโลกต่อไปอีกสักระยะ จึงอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนที่ยังไม่เคยสัมผัสเครื่องบินมหัศจรรย์ลำนี้

 

ถ้าในวันหนึ่งซึ่งการเดินทางกลับมาสู่สภาวะปกติ มันคงเป็นประสบการณ์ที่ดีถ้าท่านได้สัมผัสกับเจ้าวาฬยักษ์เครื่องบินที่ใครหลายๆคนได้นั่งแล้วรู้สึกติดอกติดใจ กับความใหญ่โตสะดวกสบายของเครื่องบินในตำนานลำนี้ลองหาโอกาสมาสัมผัสแอร์บัส A380 สักครั้งท่านจะหลงรักเจ้าวาฬยักษ์เหมือนใครหลายๆคน

 

กัปตันหมี