สมการชีวิต.. ลืม = ไม่สำคัญ

เมื่อสมการชีวิต..ถูกกำหนดว่า

ลืม = ไม่สำคัญ

ได้อ่านบทความของอาจารย์นพดล ร่มโพธิ์

ในหัวข้อเรื่อง”ขอบคุณอัลไซเมอร์”

ผมเข้าใจความรู้สึกอาจารย์และผมเข้าไปถึงบทความนี้แทบทุกตัวอักษร

ผมเป็นคนหนึ่งที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคร้ายนี้

คุณพ่อผมเป็นอัลไซเมอร์ครับ

โรคที่คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักนัก

บางคนเรียกมันว่าโรคสมองเสื่อม

สาเหตุของโรคนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดและที่สำคัญมันยังไม่มียาขนานใดที่จะรักษามันได้

คนที่ทุกข์ทรมานไม่ใช่เพียงผู้ป่วยอย่างเดียวครับคนที่ดูแลและคนที่ใกล้ชิดพวกเขาคือกลุ่มคนที่น่าเห็นใจที่สุด

การดูแลผู้ป่วยโรคอื่น ผู้ป่วยยังพอที่จะให้ความร่วมมือได้ แต่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์พวกเขาลืมทุกอย่างแม้กระทั่งการกิน

ความร่วมมือในการรักษา ไม่ต้องพูดถึงไม่มีเลยครับความยากลำบากและความทุกข์ทรมานมันจึงเหมือนกราฟที่ชันขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันเวลาผ่านไปภาวะสมองเสื่อมมันก็รุนแรงขึ้นสมองถูกทำลายมากขึ้น ความทรงจำขั้นพื้นฐานในการใช้ชีวิตในแต่ละวันก็ถูกทำลายไปทีละเล็กทีละน้อย สมองส่วนการควบคุมเคลื่อนไหว การเคี้ยวการกลืนอาหาร ถดถอยเสื่อมลงทุกวัน

มันทุกข์ทรมานนะครับที่นั่งมองคนที่เรารัก

อยู่ในสภาพแย่ลงในทุกๆวัน

ปกติคุณพ่อผมจะเป็นคนอารมณ์ดีช่างพูดช่างคุยน้อยครั้งมากที่จะเห็นพ่อโกรธใครรวมทั้งตัวผมเอง

ในช่วงเวลาที่คุณพ่อเริ่มป่วยช่วงนั้นอาการยังไม่แน่ชัด มันจึงสร้างปัญหาการใช้ชีวิตร่วมกันของสมาชิกในครอบครัวพอสมควร เราไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมคุณพ่ออารมณ์แปรปรวนและเปลี่ยนไป

จากคนที่อารมณ์ดีใจดีกลายเป็นคนที่เกรี้ยวกราดบ้างเป็นบางเวลา ของหายบ่อยครั้งขึ้น เริ่มไม่ไว้ใจคนรอบข้าง ถึงขนาดเคยขู่ว่าจะไปแจ้งตำรวจตอนที่ท่านคิดไปเองว่าของส่วนตัวท่านหาย

ความหวังสุดท้ายมันเริ่มดับลง เมื่อผมถามท่านว่าท่านชื่ออะไรแล้วท่านตอบไม่ได้ เพราะก่อนหน้านั้นท่านเริ่มลืมชื่อสมาชิกในครอบครัวเราไปทีละคน

โดยท่านลืมชื่อคุณแม่เป็นคนสุดท้าย คนที่เป็นคู่ชีวิตของท่านคนที่อยู่เคียงข้างท่านจนวันสุดท้าย นั่นหมายถึงแม้สมองมันโดนทำลาย มันก็ยังจะเหลือพื้นที่สุดท้ายให้จดจำ คนที่สำคัญที่สุดก็คือคู่ชีวิตของเขา คนที่อยู่ร่วมกันมาเหมือนกับชีวิตรวมกันเป็นหนึ่งเดียว…

ผมขอหยุดตรงนี้ ก่อนบรรยากาศมันจะเศร้าเกินไปผมอยากจะสรุปบทเรียนที่ได้

และมีคำแนะนำในเรื่องนี้ดังนี้นะครับ

1.ดูแลตัวเองให้ดี

รักษาสุขภาพทานอาหารมีประโยชน์ในเมื่อโรคนี้มันยังรักษาไม่ได้ เราคงต้องรักษากายรักษาใจให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งมันก็จะป้องกันโรคร้ายอื่นๆด้วย

2.เงินทองถ้ามีก็เก็บไว้บ้าง

เพราะเราไม่รู้ว่าสุขภาพร่างกายของเราในอนาคตจะเป็นอย่างไรนอกจากมันจะแบ่งเบาลดความทุกข์,ความไม่สบายกายของตัวเราแล้ว เงินที่เก็บไว้จะถูกนำมาใช้เมื่อยามจำเป็น ซึ่งอาจแบ่งเบาภาระของคนรอบตัวเราไปได้บ้าง

3. คนที่รักเราที่สุดก็คือคนในครอบครัวของเรา

พ่อแม่,พี่น้องในเวลาที่เราแข็งแรงและยังมีเวลา อย่าลืมดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจเมื่อเข็มนาฬิกามันผ่านไปและย้อนเวลากลับมาไม่ได้

4. อยากทำอะไรกับตัวเองกับใครให้รีบทำ

เพราะวันพรุ่งนี้,วันมะรืน,เดือนหน้าปีหน้า อาจไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้

ความทุกข์ของมนุษย์เกิดจาก 2 สถานะ

ทุกข์เมื่อนึกถึงอดีตในเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมากับกังวลเรื่องที่ยังมาไม่ถึงในอนาคต

จงอยู่กับปัจจุบันและทำวันนี้ให้ดีที่สุด

สิ่งที่ดีที่ถูกต้องแล้วเรายังไม่ได้ทำอย่ารอเวลา จงรีบลงมือทำ

5. การถูกลืมเจ็บปวดที่สุด

วันที่ถามคุณพ่อว่าผมชื่ออะไรแล้วท่านตอบไม่ได้คือวันที่ผมเสียใจมาก

แต่นั่นยังยอมรับได้ส่วนหนึ่งเพราะมันเกิดจากอาการเจ็บป่วย

แต่หากเราถูกลืมจากใครบางคนในขณะที่คนนั้นยังมีความสมบูรณ์ทั้งจิตใจและร่างกาย

ผมว่ามันเจ็บปวดกว่าครับ

เพราะ”สมการชีวิต”ที่มักจะเป็นจริงเสมอก็คือ

ลืม = ไม่สำคัญ

เรารู้ว่าการถูกใครบางคนลืมโดยที่เรายังยืนอยู่ตรงนี้ยังมีลมหายใจมันเจ็บปวด

เหมือนเราไม่ได้รับความสำคัญ

เราอย่าทำเช่นนั้นกับใครโดยเฉพาะคนที่มีบุญคุณกับเราอย่าให้คนเหล่านั้นเขารู้สึกได้ถึงความไม่สำคัญ

ในวันที่ชีวิตรีบเร่งมีเรื่องราวต่างๆผ่านเข้ามาในหัวสมองอย่างมากมาย อย่าปล่อยให้เรื่องราวเหล่านั้น

มาทำให้เราลืมคนสำคัญบางคนไป..

จะจด จะจำ,จะบันทึกจะทำวิธีไหนก็ได้ครับ เพราะการแสดงออกว่าเราไม่ลืมมันไม่ยากเลย

อาจยังไม่จำเป็นจะต้องไปหาไปพบหน้า

แค่ส่งข้อความหรือโทรศัพท์ไปทักทายแค่นั้นก็ยังดี

คนเราก็แปลกครับ เรื่องควรจำกลับลืม

เรื่องควรจะลืมกับจำ.. หลายครั้งความเจ็บปวดความล้มเหลวในอดีต มันตามมาหลอกหลอนเราจนถึงทุกวันนี้เพราะเราไม่รู้จักที่จะลืม

งั้นก็หมายความว่าเราต้องพยายามตั้งใจที่จะลืมมันอย่างนั้นหรือ? ..คำตอบคือไม่ครับ..

นั่นเป็นวิธีที่ผิด

ยิ่งเราพยายามลืมมัน เราก็จะยิ่งนึกยิ่งคิดถึงสิ่งนั้น วิธีการง่ายกว่านั้นคือ การหาเรื่องที่สำคัญกว่าเรื่องนั้นมาคิด สมองมนุษย์มีลักษณะเฉพาะคือมันมีพื้นที่ให้จดจำเรื่องราวได้จำกัด เรามักจะคิดถึงเรื่องราวเรื่องใดๆได้เพียงเรื่องเดียวในเวลาหนึ่ง

ถ้าเรายังไม่ลืมเรื่องเลวร้าย ปมในชีวิตหรือความผิดพลาดในอดีตสักที ก็ให้คิดถึงเรื่องที่สำคัญกว่านั้น เรื่องสำคัญในชีวิตของเราที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น

ถ้าคิดไม่ออกว่าเรื่องสำคัญที่เราจะคิดทดแทน

เรื่องในอดีตที่เจ็บปวดนั้นคืออะไร

เดินไปที่กระจกครับมองไปในกระจก

คิดถึงคนๆนั้น คนที่สำคัญที่สุดที่เขาจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปในวันพรุ่งนี้ คิดถึงเขามากๆ

อย่าลืมเขาสิครับ

เพราะ ลืม = ไม่สำคัญ

นึกถึงแต่คนอื่นที่ทำร้ายเรา นึกถึงแต่เรื่องราวร้ายๆ

ในอดีต หมายถึงเรากำลังให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นหรือคนๆนั้น จนอาจทำให้เราลืมนึกถึงคนสำคัญที่สุดนั่นคือตัวเราเอง

และอย่าลืมลองมองรอบๆตัวนะครับ

ว่ามีใคร ที่เราควรรู้สึกคิดถึงบ้าง..

ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

กัปตันหมี