ส่งน้องกลับบ้าน

ครั้งหนึ่งที่ผมยังจำได้ ขณะที่เตรียมตัวลงจอดที่สนามบินอินชอนเกาหลีใต้ ผมได้รับคำสั่งให้บินวนรอเนื่องจากสภาพอากาศมีหิมะตกหนักแต่เช้า เครื่องบินจำนวนหลายสิบลำบินวนรออย่างไร้อนาคต

เหตุการณ์ลักษณะนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย
เวลาบินวนจากครึ่งชั่วโมง เป็นหนึ่งชั่วโมง! แน่นอนครับทุกสายการบินไม่มีใครเตรียมน้ำมันมาได้มากมายได้ขนาดนั้นน้ำมันกำลังจะหมดลง ผมจึงตัดสินใจแจ้งผู้ช่วยนักบินให้บอกหอบังคับการบินว่าขอเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินสำรองของเราในวันนั้นคือสนามบินกิมโป
เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนสนามบินดอนเมืองที่เป็นสนามบินสำรองของสุวรรณภูมิครับ ไม่ไกลกันมาก

ยิ่งตัดสินใจได้เร็วเรายิ่งได้เปรียบเพราะไม่นานนักเครื่องบินอีกหลายสิบลำก็บินตามเรามา เราไปลงจอดที่สนามบินกิมโปเป็นลำแรกๆ ที่สนามบินในวันนั้นมีหิมะตกเล็กน้อย
และทุกอย่างดูราบรื่นดี

แต่เมื่อเราลงจอดแล้วปัญหาต่างๆก็เริ่มเกิดขึ้นครับ
การติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้น
ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ที่เคยทำงานด้วยเป็นประจำ
ความยากลำบากในการสื่อสารเกิดขึ้น เราคุยเป็นภาษาอังกฤษพี่เขาตอบมาเป็นภาษาเกาหลี 😅

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในวันนั้นไม่เพียงพอ เพราะมีเครื่องบินจำนวนมากเปลี่ยนเส้นทางมาลงที่สนามบินกิมโปในวันนั้น

ด้วยกฎการบิน การลงจอดในสภาพอากาศที่มีน้ำแข็งเกาะผิวปีกเช่นวันนั้น การจะเก็บปีกเพิ่มแรงยก(Flap) จะทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นว่าไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่ที่ชายผิวปีกมิฉะนั้นจะสร้างความเสียหายกับเครื่องบิน

เราต้องใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่เรามีในวันนั้นแก้ปัญหาให้ได้เมื่อการสื่อสารมีปัญหา คนๆหนึ่งที่จะช่วยเราได้คือ
“น้องเหมียว” แอร์เกาหลีของการบินไทย เธอได้ชื่อไทยนี้มาจากการมอบชื่อเล่นให้เธอจากพวกเราบรรดาลูกเรือ^^

ผมจึงเรียกน้องเหมียวเข้ามาในห้องนักบินสอนให้เธอใช้อุปกรณ์สื่อสารเพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้น

เธอใช้อุปกรณ์สื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว คุยกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นสักครู่เธอหันมายืนยันกับเราว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ผมสามารถเก็บปีกเพิ่มแรงยกได้เลย

หลังจากนั้นเธอก็ติดต่อสื่อสารประสานงานให้กับเราอีกหลายขั้นตอน จนทำให้เที่ยวบินของเราในวันนั้นบินกลับมาที่สนามบินอินชอนได้อย่างสวัสดิภาพและรวดเร็ว

นี่แหละครับลูกเรือต่างชาติ”หัวใจไทย” ที่ปฏิบัติงานคู่กับการบินไทยมาหลายปี สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารทั่วโลกมาอย่างมากมายและทำหลายบทบาทไม่ใช่เพียงการดูแลผู้โดยสารให้บริการเท่านั้น ยังรวมถึงแก้ไขปัญหาให้กับพวกเราคุยกับคนชาติเดียวกับเธอ ประสานงานดูแลพวกเขาอย่างเต็มที่…

ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่สายการบินต่างๆต้องพบเจอกับสภาวะวิกฤติเช่นนี้ บรรดาลูกเรือต่างชาติทั้งหมดจำเป็นต้องกลับบ้าน ยุติบทบาทการทำงานของเธอที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นการยุติบทบาทเพียงชั่วคราว สิ่งที่เธอทำและคุณค่าที่เธอมีเป็นสิ่งที่สายการบินต้องการเสมอ
ในวันหนึ่งที่ทุกอย่างกลับมาพร้อมเราคงมีโอกาสได้พบกันใหม่อย่างแน่นอน

ก่อนกลับเธอได้ทำในสิ่งที่เธอปรารถนาอยากจะทำแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำคือการใส่ชุดไทยที่ลูกเรือไทยได้สวมใส่ในการปฏิบัติหน้าที่ วันนี้ไม่ว่าจะเป็นลูกเรือเกาหลี,จีน,ไต้หวันญี่ปุ่นหรือชาติอื่นๆ ได้มีโอกาสสวมชุดไทยสวยงาม
มีโอกาสไปถ่ายรูปที่พระบรมมหาราชวังล่องเรือทานอาหารร่วมกับลูกเรือไทยที่จัดงานนี้ให้กับพวกเธอ
เป็นความประทับใจก่อนจะเอ่ยคำลา

ในอดีตในวันที่เราเคยปฏิบัติงานด้วยกัน ผมได้ยินประโยคนี้เสมอเมื่อไปปฏิบัติการบิน

“พี่คะเดี๋ยวถึงสนามบินแล้วหนูขอกลับบ้านได้ไหมคะ..^^”

ประโยคคำพูดภาษาไทยลักษณะนี้ ลูกเรือต่างชาติมักจะมาขออนุญาตกัปตันเพื่อขอกลับบ้าน ในเที่ยวบินที่เธอปฏิบัติงานและเป็นเที่ยวบินที่บินไปบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ

ลูกเรือต่างชาติบางคนใช้เวลาที่เมืองไทยมากกว่าเวลาในประเทศของเธอซะอีก เมื่อมีโอกาสบินกลับบ้านแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆหรือเพียงข้ามคืน เธอจึงมักใช้โอกาสนั้นกลับไปเยี่ยมบ้านเธอเสมอ

วันนี้เธอได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิดของเธออย่างเต็มที่
และยาวนาน
ขอบคุณครับ..ขอบคุณจากใจทุกสิ่งที่ทำให้การบินไทย
จะอยู่ในใจของพวกเราเสมอ

ลาเพื่อรอ
เพื่อพบกันใหม่

Goodbye ,Have a safe journey back home

กัปตันหมี

ขอบคุณภาพจาก :พี่มั่ม FB: Mum Nattaka Phenjati