Fact Telling กรณีอุบัติเหตุเครืีองบินตกที่เนปาล
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
1
เครื่องบินที่ตกที่เขตเมืองมัสแตง เป็นเครื่องบินใบพัดขนาดเล็ก Turboprop แบบ Twin Otter 9N-AETผลิตโดยประเทศแคนาดาของสายการบินTara Air โดยออกเดินทางจากเมืองโพคาราเมืองที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
บนเครื่องมีลูกเรือและผู้โดยสาร 22 คนประกอบด้วยนักบินและลูกเรือ 3 คนผู้โดยสารชาวเนปาล 13 คน,อินเดีย 4 คน,เยอรมนีอีก 2 คน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้าถึงจุดตกของเครื่องบินบริเวณหุบเขาเรียบร้อยแล้วและมีการนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 14 ร่าง โดยส่วนใหญ่ยังไม่สามารถจะระบุตัวตนได้ คาดว่าทุกคนบนเครื่องจะเสียชีวิตทั้งหมด
2
เครื่องบินขนาดเล็กคือวิธีการที่เดินทางที่จำเป็นมากสำหรับประเทศเนปาล เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นหุบเขา ประตูสู่เนปาลจึงเป็นท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวันที่เมืองกาฐมาณฑุ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลักษณะแอ่งกระทะล้อมรอบโดยหุบเขา ถือเป็นสนามบินที่การลงจอดมีความยากอีกสนามหนึ่ง โดยเนปาลมีสนามบินที่ถือว่ามีความยากติดอันดับโลกคือสนามบิน Lukla ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของเนปาลเป็นสนามบินที่อยู่ล้อมรอบโดยหุบเขาปลายทางวิ่งเป็นหุบเหว แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังหลงไหลความงดงามของทัศนียภาพและความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาหิมาลัย นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกจึงเดินทางโดยสารการบินระหว่างประเทศมาลงที่สนามบินตริภูวันและต่อเครื่องบินเล็กซึ่งเป็นการเดินทางที่จำเป็นไปยังเมืองต่างๆ
3
เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 9:55 ตอนเช้าและขาดการติดต่อไปหลังจากวิ่งขึ้นได้เพียง 12 นาที ความสูงสุดท้ายที่เรดาร์จับได้คือที่ความสูง 12,825 ฟุต สาเหตุการตกของเครื่องบินครั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดแต่เจ้าหน้าที่ได้รายงานว่ามีผู้พบเห็นลักษณะเหมือนควันหรือเพลิงไหม้ก่อนที่เครื่องบินจะตก ด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาและสภาพอากาศที่ไม่ดีนักทำให้การเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ทั้งหมดคือ FACT หรือความจริงที่รวบรวมได้สำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมด
มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
กัปตันหมี
Photo : CNBC