ชัยชนะที่แท้จริง

Charlie Brown นักบินเครื่องบิน B-17 Flying Fortress

สังกัดฝูงบิน 379 ที่เมืองคิมโบลตัน ประเทศอังกฤษ

ครั้งหนึ่งในสมรภูมิทางอากาศ เครื่องบินของชาลีอยู่ในสภาพที่เรียกว่าแย่มาก

มันถูกยิงจนพลุนไปทั้งลำ เข็มทิศเดินทางเสียหายอย่างหนัก

ด้วยเหตุนี้ชาลีจึงหลงบินเข้าไปในดินแดนของข้าศึกแทนที่จะกลับไปยังฐานทัพที่อังกฤษ

หลังจากเครื่องบิน B-17 บินเข้าไปในดินแดนของข้าศึก

นักบินเยอรมัน Franz Stiegler ได้รับคำสั่งให้ขึ้นบินสกัดกั้นเพื่อทำลายเจ้า B-17

เมื่อเค้าได้พบเครื่องบินของชาลีและบินเข้าไปใกล้ๆ

เค้าแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง เค้าไม่เคยเห็นเครื่องบินในสภาพที่แย่ขนาดนี้มาก่อน แพนหางของมันเสียหายอย่างหนัก ลำตัวเต็มไปด้วยรอยกระสุน มากมายขนาดที่นับไม่ได้ พลปืนที่ป้อมปืนก็บาดเจ็บสาหัส ที่ส่วนหัวของเครื่องบินเสียหายอย่างรุนแรง

ฟาส์นบินไปข้างๆเครื่องของชาลีและจ้องมองไปที่ชาลี ที่กำลังพยายามอย่างสุดชีวิต

ที่จะบังคับเครื่องบินที่เต็มไปด้วยคราบเลือดของเค้า

โดยชาลีไม่รู้เลยว่าเค้ากำลังควบคุมเครื่องบินไปนี้ยังดินแดนของข้าศึก

ฟาส์นโบกมือให้ชาลีเลี้ยวกลับในทิศทาง 180 องศา และช่วยนำทางชาลีกลับบ้านไปยังทะเลเหนือของอังกฤษ

หลังจากฟาส์นกลับไปที่เยอรมันเค้ารายงานผู้บังคับบัญชาว่า ได้เห็นเครื่องชาลีและยิงเครื่องบินลำนั้นตกทะเลไปเรียบร้อย แล้วเค้าก็เก็บเรื่องราวนั้นเป็นความลับตลอดมา

สำหรับชาลีเมื่อนำเครื่องไปลงที่อังกฤษเค้าได้บอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับเพื่อนในฝูงบินได้รับทราบและหลังจากนั้นทุกคนก็เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเช่นกัน

40 ปีหลังจากนั้น ชาลีต้องการที่จะพบนักบินที่ช่วยชีวิตเค้าและลูกเรือ

กว่า 1 ปีที่ตามหา ในสุดชาลีก็พบฟาส์น และพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายต่างเก็บเป็นความลับไม่มีการพูดถึงมันอีกเลยตั้งแต่สงครามสิ้นสุดลง

ชาลีและเพื่อนทั้ง 25 คนที่รอดชีวิตในวันนั้นได้พบกับฟาส์น

ในงานรำลึกถึงฝูงบิน 379 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อถูกถามว่าทำไมเค้าถึงไม่ยิงเครื่องชาลีตกในวันนั้น

ฟาส์นตอบว่า ในใจของผมไม่เคยคิดที่จะยิงเครื่องบินของนักรบที่กล้าหาญที่กำลังพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะหาทางกลับบ้านของเขาผมจึงบินเคียงคู่เค้าและทำให้การกลับบ้านของเค้าให้สำเร็จ

มันก็เหมือนการที่คุณเลือกที่จะไม่ยิงทหารที่กำลังโดดร่มผ่านเครื่องบินคุณไปนั่นแหละ

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง

มิตรภาพที่หล่นหายทามกลางสงครามเลือด

เกือบ 40 ปีครับ

อาวุธ อำนาจ อิทธิพล

อาจไม่ใช่เครื่องมือสำหรับคนที่ต้องการ “ชัยชนะที่แท้จริง”


#เรื่องราวดีๆอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ

Photo by : Pixabay

Story by : Mary Zue