ในช่วงการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
หลายคนคงได้ตรวจสภาพรถกันใช่ไหมครับ
สิ่งหนึ่งที่เราจะตรวจเสมอคือ”ลมยาง”
อุบัติเหตุหลายครั้งเกิดจากแรงดันลมยางที่ไม่ได้มาตรฐาน
เครื่องบินก็เช่นกันครับเพราะไม่ได้มีเพียงแค่ 4 ล้อ
จำนวนล้อที่มีจำนวนมาก แรงดันลมยางที่มหาศาล
น้ำหนักที่ลมยางต้องแบกรับไว้
ลมยางจึงเป็นเรื่องของความปลอดภัยที่ไม่ควรถูกมองข้าม
ย้อนหลังกลับไปในปี 1986 สายการบิน Mexicana เที่ยวบินที่ 940 เครื่องบินแบบโบอิ้ง 727 ออกเดินทางจาก สนามบิน Mexico City มุ่งตรงสู่ Los Angeles เกิดระเบิดขึ้นหลังจากวิ่งขึ้นได้ไม่นาน
การสอบสวนพบสาเหตุที่น่าตกใจว่าก่อนระเบิดไม่กี่นาทีล้อข้างหนึ่งของเครื่องบินได้เกิดระเบิดขึ้น เกิดชิ้นส่วนและเปลวไฟสร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่สูญเสียชีวิตถึง 166 ชีวิต
เรื่องราวครั้งนั้น ได้มีการกำหนดมาตรฐานการเติมและความดันของลมยางจาก FAA ออกเป็นข้อกำหนดให้เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 75,000 ปอนด์ขึ้นไปต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด
ข้อกำหนดที่ว่านี้คือกำหนดให้มีการเติมลมยางโดยการใช้ไนโตรเจน เจ้า nitrogen มีข้อดีอย่างไรครับและสามารถที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับการบินได้อย่างไร?
ก็เป็นที่ทราบกันว่าไนโตรเจนตัวมันเองมีโอกาสติดไฟยาก
ถ้าเทียบกับออกซิเจน จึงมีข้อกำหนดว่าในลมยางต้องมีปริมาณออกซิเจนไม่เกิน 5% เป็นข้อกำหนดตั้งแต่นั้นมา
อีกอย่างการเติมไนโตรเจนแรงดันลมยางจะคงสภาพอยู่ได้นานกว่า
แรงดันลมยางสำหรับเครื่องบินแต่ละแบบก็ไม่เท่ากันครับ
เช่นสำหรับ boeing 777 แรงดันลมยางจะอยู่ในช่วงประมาณ 200 PSI โดยรวม ยางในแต่ละตำแหน่งก็ไม่เท่ากันครับ ที่ตำแหน่งล้อฐานและล้อหัวความดันลมยางก็จะแตกต่างกัน(ที่ล้อฐานหรือล้อ Main จะมีแรงดันที่มากกว่า)
เราเห็นอุบัติเหตุหลายครั้งที่เกิดขึ้นจากยางระเบิด ไม่ใช่เพียงเครื่องบินครับ ทุกการเดินทางบนท้องถนนการตรวจสอบสภาพรถ วัดลมยางก่อนออกเดินทางเป็นสิ่งที่ควรจะทำ
ขอให้ทุกคนเดินทางด้วยความปลอดภัยในช่วงเวลาของการกลับมาทำงานหลังเทศกาลสงกรานต์นี้
กัปตันหมี
Rmk : ในแฟนเพจของเรามีพี่น้องช่างอากาศยานหลายคน
ช่วยกันเพิ่มเติมนะครับว่าข้อมูลการเติมลมยางปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเดทอย่างไร
ยินดีนะครับช่วยกันแชร์ความรู้
กัปตันหมี 