✈️ เครื่องบินพาณิชย์และเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้บินได้ในสภาพอากาศเลวร้าย ตั้งแต่ฝน ลูกเห็บ ไปจนถึง freezing fog และ ice เครื่องบินมักจะผ่านพายุหรืออากาศเลวร้ายได้อย่างปลอดภัยและมีระบบป้องกันโดยใช้ความร้อน,ลมร้อนและเซ็นเซอร์ครับ
แต่ถ้าเครื่องบินจอดนานโดยเฉพาะค้างคืน น้ำแข็งอาจเกาะสะสม เกิดอันตรายต่อสมรรถนะการบิน
บริษัทโบอิ้งแนะนำว่านักบินต้องทำการกำจัดน้ำแข็ง(de-iced) ก่อนเริ่มเดินทาง โดยมีขั้นตอนเฉพาะตามช่วงเวลาที่ตรวจพบน้ำแข็ง
1
❄️ น้ำแข็งบริเวณช่องอากาศเครื่องยนต์ Engine inlet
เครื่องยนต์เป็นหัวใจของเครื่องบิน ต้องทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเที่ยวบิน หิมะหรือน้ำแข็งอาจเกาะที่ช่องอากาศ ใบพัด และแกนคอมเพรสเซอร์ ซึ่งหากตรวจพบก่อนบิน ต้องกำจัดก่อนสตาร์ทเครื่อง ถ้าพบหลังเริ่มดันถอยหลังหรือแท็กซี่เคลื่อนตัวแล้ว ต้องจัดการก่อนขึ้นบินหรือ takeoff
นักบินจะทำตามขั้นตอนกำจัดน้ำแข็งเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีน้ำแข็งเกาะบนเครื่องยนต์และส่วนควบคุม
2
ผลกระทบของน้ำแข็งเกาะเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เครื่องบินออกแบบมาให้อากาศไหลผ่านช่องอากาศ(Engine inlet)เข้าสู่ใบพัดความดันต่ำและสูง หรือ low-pressure (LP) และ high-pressure (HP) compression stages
น้ำแข็งทำให้การไหลของอากาศไม่สม่ำเสมอ ส่งผลต่อแรงขับ ความปลอดภัยของผู้โดยสาร
3
❄️ นอกจากช่องอากาศ ใบพัด(fan blades)ก็เสี่ยงต่อน้ำแข็งเกาะมากที่สุด โดยเฉพาะเครื่องบินที่แท็กซี่ช้า น้ำแข็งอาจเกิดขึ้นภายในแกนเครื่องยนต์ ทำให้ใบพัดเสียหาย ระบบคอมเพรสเซอร์ล้มเหลว
ข้อมูลการบินผิดพลาด
วิธีกำจัดน้ำแข็ง น้ำแข็งบริเวณเครื่องยนต์จะไม่ใช้ของเหลวละลายน้ำแข็งเหมือนส่วนอื่น เพราะอาจส่งผลเสียหายต่อระบบภายใน
เครื่องยนต์จึงมีระบบป้องกันน้ำแข็งเกาะโดยการใช้ความร้อนและมีขั้นตอนการปฏิบัติของนักบินในการเร่งเครื่องเพื่อไม่ให้น้ำแข็งก่อตัวระหว่างที่อยู่บนพื้น
อีกวิธีคือ นำเครื่องบินเข้าโรงเก็บอากาศอุ่นหรือเป่าลมร้อนเข้าช่องอากาศ ขณะนั้นต้องปิดช่องเครื่องยนต์ให้อากาศร้อนอยู่ภายในได้รับการควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันความเสียหาย
ทั้งหมดคือ ผลกระทบ และขั้นตอนการกำจัดน้ำแข็งเกาะเครื่องยนต์ครับ
Takeoff your Life กัปตันหมี
Cr : simpleflying