ทำไมเครื่องบินพาณิชย์จึงไม่มีร่มชูชีพสำหรับผู้โดยสาร?

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมกัปตันหมีถามแปลกๆ มันก็ไม่น่าจะมีอยู่แล้วป่ะ😁

ผมอยากชวนเรามาเป็นนักค้นหาคำตอบ
กับคำถามบางเรื่อง ที่อาจจะดูแปลกๆกัน

วิเคราะห์เหตุผลดีๆเราอาจจะได้คำตอบ
เชื่อมโยงไปยังเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจครับ

ก็เครื่องบินรบและเครื่องบินทหารมีร่มชูชีพนี่..
ถ้ามีร่มชูชีพอาจจะรักษาชีวิตผู้โดยสารก็ได้นะ
ยิ่งจำนวนเครื่องบินพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณทุกวัน แล้วเหตุผลอะไรล่ะ
ที่จึงไม่ควรมีร่มชูชีพสำหรับผู้โดยสาร?

1 ผู้โดยสารไม่มีการฝึกอบรมการใช้ร่มชูชีพ

เราดูหนังแอ็คชั่นกันมากมายจนบางครั้งอาจทำให้เชื่อว่าการกระโดดร่มดูเป็นเรื่องไม่ยาก
มันจะยากอะไรกันนักหนา
แค่สวมใส่ ดึงสลัก และกระโดด ใช่ไหม?

คำตอบคือ มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นครับ!

การกระโดดร่มอาจดูง่ายในภาพยนตร์แต่จริงๆแล้วต้องฝึกฝน แม้แต่การกระโดดร่มแบบแทนเด็ม ซึ่งเราจะถูกยึดติดกับผู้เชี่ยวชาญ เราเองก็จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมและฟังคำแนะนำขั้นพื้นฐานอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงนะครับ

แล้วรูปแบบการกระโดดร่มที่ถือว่าเสี่ยงที่สุด
คือกระโดดออกจากเครื่องบินที่ระดับความสูงมากกว่า 10,000 ฟุต จึงต้องการการฝึกฝนที่ถูกต้องหลายๆชั่วโมง

2 การกระโดดร่มมีการวางแผนล่วงหน้า

การกระโดดร่มเป็นสิ่งที่มีการวางแผนและเกิดขึ้นภายใต้การวางแผนที่นักกระโดดร่มทราบล่วงหน้าว่าพวกเขาจะกระโดดออกจากเครื่องบินที่กำลังเคลื่อนที่… แล้วผู้โดยสารบนเที่ยวบินพาณิชย์หละ?

เราไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์นี้!
พวกเราไม่มีประสบการณ์ในการใช้ร่มชูชีพและต้องสวมใส่อุปกรณ์และเตรียมพร้อมสำหรับการกระโดดอย่างรวดเร็ว และถ้าต้องทำในขณะที่สวมหน้ากากออกซิเจนฉุกเฉิน งานจะยิ่งยากขึ้นไปอีกในสถานการณ์ที่วุ่นวายและสับสนบนเครื่องบิน

3 เครื่องบินพาณิชย์บินสูงมาก

แม้แต่การกระโดดร่มที่มีความเสี่ยงสูงที่มีการวางแผนไว้อย่างดีก็เกิดขึ้นที่ส่วนมากประมาณ 15,000-16,000 ฟุตเหนือพื้นดิน
และเครื่องบินที่นักกระโดดร่มกระโดดออกมามักเป็นเครื่องบินขนาดเล็กและบินไม่เร็วมาก

ในทางตรงกันข้ามเครื่องบินพาณิชย์ส่วนใหญ่บินที่ระดับความสูงประมาณ 35,000 ฟุต ซึ่งไม่มีอากาศ ออกซิเจนที่หายใจได้และบินเร็วกว่ามาก
หากผู้โดยสารต้องกระโดดร่มออกจากเครื่องบินที่กำลังตก จะต้องใช้ถังออกซิเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการหมดสติเนื่องจากภาวะขาดออกซิเจน

4 เครื่องบินพาณิชย์ไม่ได้ออกแบบมาให้เอื้อต่อการที่คนจะกระโดดออกมา

เครื่องบินที่เหมาะกับการกระโดดร่มแบบรายบุคคลมักมีขนาดเล็กดังนั้นนักกระโดดร่มจึงพ้นจากตัวเครื่องเกือบจะทันทีหลังจากกระโดด
ในทางกลับกันเครื่องบินทหารขนาดใหญ่มีทางลาดเป็นทางออกที่ดีที่ด้านหลังซึ่งนักโดดร่มสามารถกระโดดและหลีกเลี่ยงการประทะกับลำตัวเครื่องได้

การกระโดดออกจากเครื่องบินพาณิชย์แบบทั่วไปจะมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะชนกับลำตัวของเครื่องบิน (ปีกหรือหาง)และได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

5 ความเร็วของเครื่องบิน

เครื่องบินพาณิชย์ไม่เพียงแต่บินที่ระดับความสูงมากแต่ยังบินเร็วมากด้วย หากใครพยายามกระโดดออกจากเครื่องบินที่ความเร็วขนาดนั้นไม่อยากจะคิดเลยครับว่าจะเจออันตรายเพียงใด

เหตุผลอีกข้อ
อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างการลงจอดและการขึ้นบิน ซึ่งเหตุผลจากสถิติล้วนๆนะครับ

  • ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่มชูชีพไม่มีประโยชน์อะไรเลย

6 ชุดร่มชูชีพมีขนาดใหญ่และราคาแพง

ที่นั่งบนเครื่องบินทั่วไปไม่มีพื้นที่กว้างพอที่จะเก็บร่มชูชีพขนาดใหญ่ ซึ่งจะเพิ่มน้ำหนักให้กับเครื่องบินอย่างมากด้วย นอกจากนี้ อุปกรณ์กระโดดร่ม เช่น หมวกนิรภัย เครื่องวัดความสูงและแว่นตา มีราคาแพงมาก ซึ่งจะเพิ่มค่าโดยสารอย่างมากหากร่มชูชีพถูกกำหนดให้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมด

สรุปการกระโดดร่มจากเครื่องบินพาณิชย์
เป็นไปไม่ได้ทั้งในทางปฏิบัติ
และความคุ้มทุนของสายการบินครับ

กัปตันหมี

Cr Scienceabc.com