ตอนนี้เหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินแบบ
Boeing 787 เป็นที่สนใจและมักจะเชื่อมโยงเข้ากับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับแอร์อินเดีย เที่ยวบิน 171
ก็เลย กังวลกันไปอีกครับ
เหมือนกับที่บางคนโยงเรื่องราวของ
เที่ยวบิน American Airlines เที่ยวบิน AA292
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา
ซึ่งใช้เครื่องบิน Boeing 787-9 Dreamliner เดินทางจาก นิวเดลี (DEL) ไปยัง นิวยอร์ก (JFK) ได้ขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน Heydar Aliyev (GYD) เมืองบากู อาเซอร์ไบจาน
🚨 แต่แท้จริงแล้ว เรื่องนี้เป็นคนละมุมกันเลยครับ
✔️ เหตุผลของการลงจอดครั้งนี้ ไม่ใช่เครื่องยนต์ขัดข้อง
ไม่ใช่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็น เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
ผู้โดยสารคนหนึ่งเกิดอาการป่วยกะทันหันกลางอากาศ
กัปตันจึงตัดสินใจเบี่ยงเส้นทางลงจอด ณ สนามบินที่ปลอดภัยที่สุดใกล้เคียง เพื่อให้แพทย์ขึ้นมาดูแลทันที
เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยในเวลา 02:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และหลังจัดการทุกขั้นตอนแล้ว จึงออกเดินทางอีกครั้งเวลา 10:31 น. โดยเปลี่ยนเส้นทางผ่าน ลอนดอน (LHR) ก่อนบินต่อไปยังนิวยอร์ก
✔️ เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
ก่อนหน้านั้นเพียง 2 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2025
เที่ยวบิน Qantas QF2 จาก ลอนดอน ไป สิงคโปร์
ซึ่งใช้ Airbus A380 เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก็ต้องเบี่ยงเส้นทางลงจอดที่สนามบินเดียวกัน
ด้วยเหตุผลเดียวกันคือผู้โดยสารเจ็บป่วยกลางอากาศ และต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน
🛬 บทเรียนที่อยากชวนคิด
ในยุคที่ข่าวสารแพร่เร็ว คำว่า “emergency landing” มักดึงความสนใจด้วยความตกใจและเมื่อเห็นชื่อ “Boeing 787” หลายคนก็อดโยงไม่ได้กับโศกนาฏกรรมของ
Air India เที่ยวบิน AI171 ซึ่งเกิดเมื่อ 12 มิถุนายน 2025 และยังฝังอยู่ในความรู้สึกของผู้คน
📌 แต่หากเราอ่านข่าวให้ลึกกว่าพาดหัว
เราจะพบว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของ “เครื่องบินมีปัญหา”
แต่คือเรื่องของ นักบินที่กล้าตัดสินใจ
เพื่อรักษาชีวิตหนึ่งไว้ให้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุด
นี่แหละครับ “การลงจอดฉุกเฉิน” ที่แท้จริง
คือ การไม่รอให้มันสายเกินไป
✈️
กัปตันหมี