จงเตรียมพร้อม

ในค่ำคืนที่เงียบสงัด มองไปทางไหนเห็นแต่ความมืดมิด มีแต่ลมทะเลที่ผ่านมาปะทะกับใบหน้าของกัปตันหนุ่ม มันช่างเป็นเวลาที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด

เขาบังคับเรือเคลื่อนผ่านท้องน้ำอันมืดมิดด้วยความเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเขาตระหนักดีว่านี่คือเส้นทางการเดินเรือของเรือพิฆาตญี่ปุ่น

ซึ่งมันจะเป็นสมรภูมิที่สร้างความหายนะให้กับเขาอย่างแน่นอนถ้าหากกองเรือญี่ปุ่นตรวจพบเจอ

ทันใดนั้น! “เรือข้าศึกอยู่ในทิศทางสองนาฬิกา”ลูกเรือตะโกนขึ้นมา

เขารีบหันทิศทางเรือเพื่อหลบเรือพิฆาตลำทีกำลังเคลื่อนเข้าหา.. อนิจจามันสายเกินไป เรือของเขาถูกชนเข้าอย่างจังมันพินาศแตกออกเป็น 2 ส่วน

เรือพิฆาตลำใหญ่ของญี่ปุ่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันได้ชนเข้ากับเรือของเขา ในความเงียบเรือพิฆาตลำยักษ์ยังเคลื่อนที่ต่อไป ทิ้งตัวเขาและลูกเรืออีก 11 คนที่บางส่วนถูกเหวี่ยงตกลงไปในทะเลและได้รับบาดเจ็บไว้เบื้องหลัง

กัปตันหนุ่มกับลูกเรืออีกสองคนอยู่บนเรือทกำลังจะจม เขาต้องทําอะไรสักอย่าง

จากวัยเด็กที่เริ่มมีความเป็นผู้นำนับแต่การเป็นหัวหน้า กองลูกเสือ การเป็นหัวหน้าทีมกีฬามากมายหลายประเภทและบทบาทของนักว่ายน้ำที่หาตัวจับได้ยาก นั่นหมายความว่าความเป็นผู้นำ ที่เขาที่จำเป็นต้องใช้ในเวลาวิกฤตนี้ “เขาเตรียมมันมาทั้งชีวิต”

หลังจากช่วยเหลือทุกคนได้แล้วค่ำคืนอันโหดร้ายผ่านไปอย่างช้าๆ…เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้า ความหวังที่ใครสักคนจะมาช่วยพวกเขามันช่างเลือนลาง เรือที่ถูกแตกออกเป็นครึ่งลำ กำลังจะจมลง

กัปตันหนุ่มมองออกไปไกลสุดสายตาเห็นความหวงสุดท้ายคือเกาะเล็กๆซึ่งมันเล็กมากเกินกว่าที่ใครจะอยู่อาศัยได้ แต่นั่นคือความหวังสุดท้าย เขาได้สั่งการให้ลูกเรือที่ยังว่ายน้ำได้ไม่บาดเจ็บเกินไปลอยคอบ้างก็ว่ายน้ำเพื่อมุ่งไปหาเกาะที่เป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา

ลูกเรือ2 คนบาดเจ็บหนักเกินกว่าที่จะว่ายน้ำได้ กัปตันหนุ่มใช้มีดตัดเชือกที่ผูกอยู่กับเสื้อชูชีพแล้วใช้ปากคาบเชือกนั้น เพื่อที่จะใช้มือสองข้างว่ายน้ำเข้าไปหาเกาะโดยพาเพื่อนร่วมสมรภูมิสองคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไปกับเขาด้วย

บนเกาะที่แทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ได้ กัปตันหนุ่มรู้ดีว่าเขาต้องทําอะไรสักอย่าง เขาว่ายน้ำออกไปยังมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ในเส้นทางของการเดินเรือโดยหวังว่าจะมีเรือสักลำเดินผ่านมา และสามารถจะช่วยชีวิตเขาและลูกเรือได้ การลอยคออยู่ในท่ามกลางมหาสมุทรอย่างหมดความหวังไม่มีใครเลยที่จะมองเห็นเขาและมาช่วยเหลือเขาได้ ในระหว่างที่ลอยคออยู่นั้นกัปตันหนุ่มมองไปเห็นเกาะที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เขามีความหวังว่ามันจะมีอาหารและน้ำที่จะช่วยชีวิตเขาและลูกเรือได้

หลังจากปรึกษากับลูกเรือที่ยังแข็งแรงอยู่กัปตันหนุ่มและลูกเรือจึงตัดสินใจว่ายน้ำไปยังที่เกาะแห่งนั้นๆ

เขาคิดอย่างเดียวว่าเขาจะต้องพาลูกเรือของเขากลับบ้านให้ได้มันจึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกเรือที่เหลือพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งเขาอย่างเต็มใจ

หลังจากว่ายน้ำเป็นชั่วโมงเขาและลูกเรือก็สามารถขึ้นฝั่งบนเกาะนั้นสำเร็จและสิ่งที่เขาเจอมันมีค่ามากกว่าอาหารมันคือคนพื้นเมืองของเกาะนารูสองคนพร้อมเรือแคนูของพวกเขา(หนึ่งในนั้นคือ Eroni Kumana )

เมื่อคนพื้นเมืองรู้ว่าทั้งสองเป็นทหารอเมริกันก็เต็มใจจะช่วยเหลือ กัปตันหนุ่มได้เรือแคนนูอีกลำจากชาวพื้นเมืองและพายมันกลับมายังเกาะที่ลูกเรือของเขาอาศัยอยู่ วันรุ่งขึ้นชาวพื้นเมืองก็กลับมาพร้อมกับอาหารและน้ำดื่ม

สิ่งที่กัปตันหนุ่มตัดสินใจทำและเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราวทั้งหมดก็คือ เขานำลูกมะพร้าวมาแกะด้วยมีดของเขาเป็นตัวหนังสือที่มีใจความว่า

“NAURO ISL…COMMANDER…NATIVE KNOWS POS’IT…HE CAN PILOT…11 ALIVE…NEED SMALL BOAT…KENNEDY”.

และฝากลูกมะพร้าวนี้ไปกับชาวพื้นเมือง หลังจากนั้นชาวพื้นเมืองได้นำลูกมะพร้าวลูกนี้ไปมอบให้กองกำลังของทหารเรือนิวซีแลนด์ที่เป็นพันธมิตรกับอเมริกันและไม่นานเรือช่วยชีวิตก็มาถึง

เกือบหนึ่งอาทิตย์ของความมืดมนไร้หนทางก็สว่างขึ้นด้วยความเป็นผู้นำของกัปตันเรือหนุ่ม ท้ายสุดทุกคนได้กลับบ้าน..

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในเดือนสิงหาคมปี ค.ศ.1943 ในสมรภูมิเลือดที่มหาสมุทรแปซิฟิก

กัปตันหนุ่มผู้นั้นชื่อว่า”จอห์น เอฟ เคนเนดี้” ซึ่งต่อมาเป็นประธานาธิบดีดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา

หลังจากสงครามจบ จอห์น เอฟ เคเนดี้ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุดจากกองทัพเรือสหรัฐ ในวันที่เขาถูกถามว่ารู้สึกยังไงที่เป็นฮีโร่ในสมรภูมิเลือดครั้งนั้น เขาตอบสั้นๆว่า “ผมไม่ได้ตั้งใจจะเป็นฮีโร่ ผมรู้เพียงแค่ว่าเรือผมกำลังจะจมและผมกับลูกเรือจะต้องมีชีวิตรอด”

ผมเชื่อว่าในสภาวะการณ์วิกฤตแบบนั้นไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถที่จะมีภาวะผู้นำเช่น จอห์น เอฟ เคเนดี้ เพราะความเป็นผู้นำของเขาผ่านการเตรียมพร้อมมาทั้งชีวิต

ฉนั้นในเวลาที่วิกฤตยังมาไม่ถึงจึงเป็นเวลาที่เราควรจะเตรียมพร้อมครับ

เตรียมพร้อมในวันนี้ เพื่อชีวิตทั่ดีของเราในวันข้างหน้า

# เรื่องราวดีๆอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ

Ref and Photos : United States Navy
Collections of the U.S. National Archives and the Naval Historical Center
John F. Kennedy Presidential Library and Museum
John F. Kennedy Library and Museum