มีเรื่องราวน่าประทับใจเกิดขึ้นมากมายกับมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 ที่เพิ่งผ่านมา
ยังมีเรื่องราวอีกมุมเล็กๆที่ไม่ได้เกิดขึ้นในสนามฟุตบอลแต่สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วโลกมาเล่าให้ฟังครับ
ในการแข่งขันนัดที่สุดประทับใจนัดหนึ่งในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาคือรอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่างทีมชาติญี่ปุ่นและทีมชาติเบลเยียม
ความประทับใจมันเกิดขึ้นตั้งแต่ญี่ปุ่น มีสกอร์นำเบลเยียมอยู่ 2 ประตู
เหลือเพียงอีก 25 นาทีในครึ่งหลังชัยชนะก็จะเป็นของทีมชาติแดนอาทิตย์อุทัย
แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ทีมชาติเบลเยียมพลิกกลับมาชนะได้อย่างเหลือเชื่อ 3 ประตูต่อ 2
ลองจินตนาการดูนะครับทีมที่กำลังจะชนะ
กลับแพ้อย่างเหลือเชื่อบรรยากาศของทีมในห้องแต่งตัว หลังการแข่งขัน จะเป็นอย่างไร?
ซึมเศร้า,โวยวาย หรือเสียใจ
เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ
แต่ไม่ใช่กับทีมชาติญี่ปุ่น
พวกเขายอมรับมันอย่างเลือดนักสู้บูชิโด
แต่ความประทับใจไม่ได้จบเพียงตรงนั้น
สิ่งที่ถูกกล่าวถึงกลับคือสภาพห้องแต่งตัวหลังจากทีมชาติญี่ปุ่นได้กลับออกไปแล้ว
มันสะอาดเป็นระเบียบอย่างเหลือเชื่อ
หลายคนถึงก็แซวว่าสะอาดกว่าตอนที่นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นจะเข้ามาใช้ซะอีก
ทุกอย่างถูกเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาดตาเหมือนราวกับว่าไม่มีใครมาใช้ห้องนั้นมาก่อน
และอีกหนึ่งประทับใจคืนโน๊ตกระดาษแผ่นเล็กๆกล่าวขอบคุณเจ้าภาพรัสเซีย เขียนทิ้งไว้บนโต๊ะในห้องอีกด้วย
เรื่องราวเล่าขานเหล่านี้ไม่ใช่ครั้งแรกของชาวญี่ปุ่นครับ เรามักเห็นเหตุการณ์สุดประทับใจแบบนี้กับชนชาตินี้บ่อยครั้ง
และในสนามฟุตบอลเดียวกันนั้นเองมองขึ้นไป
บนอัฒจันทร์หลังการแข่งขันเสร็จสิ้นลงกองเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่น ที่ทีมชาติเขาเพิ่งพ่ายแพ้ไป
แบ่งหน้าที่กันเก็บเศษขยะ เศษขวดน้ำบนอัฒจันทร์ที่เขายืนเชียร์เมื่อสักครู่ให้เรียบร้อย มันสุดยอดจริงๆใช่ไหมครับ
ส่วนตัวด้วยโอกาสที่มีผมบินไปญี่ปุ่นบ่อยมาก
ขอยืนยันด้วยสองตาตัวเองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปรากฏการณ์มันคือความสามัญที่สุดที่คนชนชาติญี่ปุ่นที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันยาวนานมาแล้ว
สิ่งที่คุณได้ทำได้ทิ้งไว้ ให้คนอื่นได้เห็น ได้สัมผัสเมื่อคุณจากไปแล้ว เราเรียกมันว่า Legacy ครับ
อยากให้คนพูดถึงเราอย่างไรเมื่อวันที่เราจากไป
มันขึ้นอยู่กับการกระทำของเราในวันนี้นั่นเองครับ