“เที่ยวบินนี้… ถึงเกต หลังจากลงจอดไปแล้ว 3 ชั่วโมง”✈️

“เที่ยวบินนี้… ถึงเกต หลังจากลงจอดไปแล้ว 3 ชั่วโมง”✈️

ค่ำคืนวันที่ 16 ธันวาคม ในนิวยอร์ก

เที่ยวบินเดลตาแตะรันเวย์ JFK อย่างปลอดภัย ทุกอย่างควรจบลงตรงนั้น…

แต่ในโลกการบิน เรื่องราวเพิ่งเริ่มต้น

เครื่องออกจากรันเวย์ ไฟ Beacon ยังกระพริบ

นักบินรายงาน clear of runway

แต่แทนที่จะมุ่งหน้าเข้าเกต เครื่องกลับต้อง “หยุดรอ” บนแท็กซี่เวย์

จากไม่กี่นาที กลายเป็นเกือบ 3 ชั่วโมง

ไม่ใช่เครื่องเสีย ไม่ใช่นักบินพลาด

แต่คือคอขวดภาคพื้นจากหิมะ เกตไม่พร้อม

และเครื่องจำนวนมากที่ “ลงแล้ว แต่ไปต่อไม่ได้”

ในการบิน…

Arrival Time ไม่ได้จบที่ล้อแตะรันเวย์

แต่นับเมื่อจอดสนิทที่เกต และประตูเปิดได้จริง

คืนนั้น เครื่องบินไม่ได้มีปัญหาบนอากาศ

แต่กลายเป็นข่าวดัง ด้วยประโยคเดียว

บางครั้ง เรื่องราวที่น่าจดจำของการบิน

ไม่ได้เกิดขึ้นบนฟ้า

แต่เกิดขึ้น… หลังจากแตะพื้นแล้ว ✈️

— กัปตันหมี

✈️ เปิดศึกยักษ์ใหญ่แห่งเวหา!

✈️ เปิดศึกยักษ์ใหญ่แห่งเวหา!

เวลาเห็นเครื่องบินขนส่งลำยักษ์บินผ่าน คุณเคยสงสัยไหมว่ามัน “แบกของหนักแค่ไหน”?

จริงๆ แล้วโลกของเครื่องบินขนส่งมีตัวชี้วัดสำคัญอยู่สองคำครับ

MTOW = น้ำหนักรวมสูงสุดตอนบินขึ้น

Payload = น้ำหนัก “ของที่ขนได้จริง” ซึ่งก็คือ รายได้ ของสายการบิน

บางลำตัวใหญ่ MTOW มหาศาล แต่ Payload กลับแบกได้น้อยกว่าเพื่อน

ส่วนบางลำอาจไม่ใหญ่ที่สุด แต่แบกของโหดสุด คุ้มค่าน้ำมันสุดๆ

ยักษ์ใหญ่แต่ละรุ่นในภาพนี้จึงมีคาแรกเตอร์ต่างกันชัดเจน—

ระหว่าง “ตัวใหญ่” กับ “แบกเก่ง”… สุดท้ายอะไรสำคัญกว่า?

คุณชอบลำไหนที่สุดครับ? 👇

กัปตันหมี

#AviationLovers #AirCargo #MTOW #Payload #Boeing

✈️ ทำไม Boeing 777X ต้อง “พับปีกได้”?

✈️ ทำไม Boeing 777X ต้อง “พับปีกได้”?

เวลาบินบนฟ้า ปีกยิ่งยาว…ยิ่งประหยัด
777X จึงถูกออกแบบให้มีช่วงปีกยาวถึง กว่า 71 เมตร
เพื่อเพิ่มแรงยก ลดแรงต้าน และบินได้ไกลขึ้นกว่าเดิม

แต่ปัญหาคือ…
ถ้ากางปีกเต็มตอนจอด มันจะใหญ่เท่ากลุ่มเครื่องบินยักษ์อย่าง A380
และสนามบินส่วนใหญ่รองรับขนาดนั้นไม่ได้

วิศวกรจึงสร้างไอเดียที่ไม่เคยมีในเครื่องบินโดยสารมาก่อน
🚩ปลายปีกพับได้ข้างละประมาณ 11 ฟุต🚩

เมื่อบิน กางปีกเต็มประสิทธิภาพ
เมื่อจอด พับปลายปีก ลดความกว้างเหลือเท่า 777 เดิม
ใช้หลุมจอดมาตรฐานทั่วโลกได้ทันที ไม่ต้องขยายสนามบิน

ปีกคาร์บอนไฟเบอร์ใหม่ของ 777X
ทำให้มันกลายเป็น “ยักษ์ใหญ่ที่ฉลาดขึ้น”
บินได้ไกล ประหยัดขึ้น และเข้ากับสนามบินเดิมได้อย่างลงตัว

นี่คือเทคโนโลยีที่ไม่ใช่แค่ทำให้เครื่องบินใหญ่ขึ้น
แต่ทำให้การบินทั้งระบบ…ดีขึ้นไปพร้อมกัน 🌍✈️

กัปตันหมี
Cr aviation safety

รายงานเบื้องต้น UPS 2976 นาทีที่เครื่องยนต์หลุดจากปีก

รายงานเบื้องต้น UPS 2976 นาทีที่เครื่องยนต์หลุดจากปีก

รายงานเบื้องต้น UPS 2976 นาทีที่เครื่องยนต์หลุดจากปีก

NTSB เผยฟุตเทจจริงจากสนามบิน Louisville วินาทีที่ UPS MD-11F สูญเสียเครื่องยนต์หมายเลข 1 ระหว่างขึ้นบิน… ภาพที่ผู้เชี่ยวชาญรอคอย และเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจที่สุดครั้งหนึ่งในปีนี้

1️⃣ เริ่มต้นเหมือนการขึ้นบินปกติ
MD-11 เร่งความเร็วบนรันเวย์ ทุกอย่างดูเรียบร้อย… แต่ความจริงคือหายนะเกิดขึ้นหลังลอยจากพื้นเพียงไม่กี่วินาที

2️⃣ เครื่องยนต์เริ่มแยกตัว
ทันทีหลัง rotation เครื่องยนต์ #1 “หลุดลอยตัว” ขึ้นหน้า ลอยข้ามปีกซ้าย สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับเครื่องบินใด ๆ บนโลกใบนี้

3️⃣ การหลุดออกสมบูรณ์
ไฟปะทุขึ้นตรงจุดยึด pylon ใต้ปีกซ้าย ก่อนเครื่องยนต์จะแยกออกทั้งหมด และตกลงพื้นด้านหลังเครื่องบิน

4️⃣ ไฟลุกท่วมปีกซ้าย
โครงสร้างใต้ปีกเริ่มเสียหายอย่างรวดเร็ว ไฟยังคงลุกขณะเครื่องบินพยายามปีนระดับด้วยเครื่องยนต์เพียงสองตัว

📌 NTSB พบอะไร?
จุดยึดด้านหลังของ pylon พบ รอยล้าโลหะ (fatigue crack) หลายตำแหน่ง บ่งบอกว่าโครงสร้างอ่อนแรงสะสมมานานจนถึง “จุดแตกหัก” ช่วงขึ้นบิน การตรวจละเอียดครั้งสุดท้ายของบริเวณนี้มีบันทึกเมื่อ 28 ต.ค. 2021

📌 ความสูญเสีย
เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งเครื่องบินและอาคารบนพื้นดินไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิต 14 คน (บนเครื่อง 3 / พื้นดิน 11) และผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 23 คน

นี่คือรายงานเบื้องต้นเท่านั้น สาเหตุจริงยังไม่ถูกสรุป และจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในรายงานฉบับสมบูรณ์ในภายหลัง

ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียทุกท่านครับ
กัปตันหมี
Cr. NTSB & Aaron Rheins

ภาพฟ้าสหรัฐฯ ที่เหมือนผึ้งแตกรัง…กับวันที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน “กลับสู่เก้าอี้ตัวเดิม” แม้ไม่มีเงินเดือน

ภาพฟ้าสหรัฐฯ ที่เหมือนผึ้งแตกรัง…กับวันที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน “กลับสู่เก้าอี้ตัวเดิม” แม้ไม่มีเงินเดือน

ต้นพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท้องฟ้าสหรัฐฯ เผชิญวิกฤตหนักจาก government shutdown เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินหลายพันคนต้องทำงาน แบบไม่ได้เงิน ติดต่อกันสองงวด บางศูนย์มีอัตราการลาป่วยพุ่งถึง 40% จนระบบบินสั่นคลอน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับน่าประทับใจยิ่งกว่า…
หลายคน เลือกกลับเข้ามาทำงาน ทั้งที่รายได้ยังไม่ถูกจ่าย เพราะรู้ดีว่าหากไม่มีพวกเขา เครื่องบินหลายพันลำบนฟ้าอาจเสี่ยงทันที

รายงานจาก AP และ Reuters ระบุว่า เมื่ออัตราการ call-out ลดลง FAA จึง “ชะลอคำสั่งลดเที่ยวบิน” ไว้แค่ 6% แทนที่จะเพิ่มเป็น 8–10%
ผลคือ จากวันที่มีเที่ยวบินถูกยกเลิก 2,600 เที่ยว เหลือเพียงราว 900 เที่ยวในวันถัดมา
และกว่า 95% ของเที่ยวบินกลับมาตรงเวลา

แม้ไม่มีใครเอ่ยคำว่า “เสียสละ” ออกมาตรงๆ บางคนอาจได้เงินเดือนจึงกลับมา
แต่ภาพของพวกเขาหลายคนที่กลับมานั่งหลังจอเรดาร์
ทำงานท่ามกลางความกดดัน โดยไม่มีเงินเดือนสักดอลลาร์
มันดังพอจะเป็นคำตอบอยู่แล้ว

เพราะสำหรับคนกลุ่มนี้
หน้าที่คือสิ่งที่ต้องทำ…แม้ในวันที่ไม่มีสิ่งตอบแทนเลยก็ตาม

และท้องฟ้าสหรัฐฯ ในสัปดาห์นั้น
ปลอดภัยได้เพราะหัวใจของพวกเขาจริงๆ 🐝✈️

กัปตันหมี ✈️

ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะกลับมาสู่ฟ้าได้อีกครั้ง

ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะกลับมาสู่ฟ้าได้อีกครั้ง

เรื่องเล่าของเครื่องบิน CRJ-900 ที่สูญเสียหางไปทั้งชิ้น
และใช้เวลากว่าหนึ่งปีจึงได้กลับมาบินอีกครั้ง

🚩ย้อนไปในเช้าวันที่ 10 กันยายน 2024 ที่สนามบินฮาร์ตสฟีลด์-แจ็กสัน เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา เครื่องบินโดยสารแบบ Bombardier CRJ-900 ของสายการบิน Delta Connection ซึ่งดำเนินการโดย Endeavor Air กำลังจอดรออยู่บนทางขับ เพื่อเตรียมออกเดินทางตามปกติ แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น

เครื่องบินลำมหึมาแบบ Airbus A350-900 หมายเลขทะเบียน N503DN ของเดลตาเช่นกัน ได้เคลื่อนตัวผ่านทางขับใกล้ ๆ และด้วยจังหวะเพียงเสี้ยววินาที หางของ A350 ได้กระแทกเข้าอย่างจังกับส่วนท้ายของ CRJ-900 จนหางของเครื่องบินลำเล็กถูกเฉือนออกเกือบทั้งชิ้น

🚩แรงปะทะนั้นรุนแรงจนทำให้ทั้งสองลำได้รับความเสียหายอย่างหนัก นักบินของ A350 ยังสามารถควบคุมเครื่องกลับไปยังหลุมจอดได้ด้วยกำลังของเครื่องเอง ส่วน CRJ-900 หมายเลขทะเบียน N302PQ ถูกลากเข้าโรงซ่อมในสภาพที่แทบไม่น่าเชื่อว่าจะซ่อมกลับมาได้ 😢

โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสองลำปลอดภัยดี ขณะที่หน่วยงานสอบสวนความปลอดภัยการคมนาคมแห่งสหรัฐ หรือ NTSB ระบุในรายงานเบื้องต้นว่า สภาพอากาศขณะนั้นปกติ การมองเห็นดี และ A350 กำลังแท็กซี่ตามขั้นตอนปกติ

🚩หลังเหตุการณ์ เครื่อง CRJ-900 ถูกจอดทิ้งไว้ที่แอตแลนตาอยู่นานหลายเดือน หลายคนคาดว่ามันคงจะถูก “ปลดประจำการ” อย่างถาวร แต่ทีมช่างของ Endeavor Air กลับเลือกเส้นทางที่ยากกว่า พวกเขาเริ่มภารกิจซ่อมแซมทีละชิ้น ตั้งแต่การประกอบหางใหม่ทั้งส่วน การตรวจสอบระบบควบคุม การเดินสายไฟและทดสอบแรงดันใหม่ทั้งหมด

เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปีเต็ม จนถึงวันที่ 20 กันยายน 2025 เครื่องบินลำนี้ได้ออกบินทดสอบอีกครั้งเป็นครั้งแรกหลังจากอุบัติเหตุ และไม่กี่สัปดาห์ต่อมา มันก็กลับเข้าสู่ฟ้าในฐานะเครื่องบินโดยสารอย่างเต็มตัวอีกครั้ง

ตามข้อมูลจาก Flightradar24 เที่ยวบินแรกของเธอหลังจากการฟื้นคืนชีพคือ DL4750 จากมินนีแอโพลิสไปยังเมืองฟาร์โก รัฐนอร์ทดาโคตา นั่นคือวันที่ผู้คนในวงการการบินต่างกล่าวขานว่า “เธอกลับมาแล้ว”❤️

แม้การสอบสวนของ NTSB จะยังดำเนินอยู่ แต่เรื่องราวของ CRJ-900 หมายเลข N302PQ ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความพยายามและความเชื่อมั่นของวิศวกร นักบิน และทีมช่างผู้ไม่ยอมแพ้ต่อความเสียหาย

เครื่องบินที่เคยถูกมองว่า “จบเส้นทาง” ได้กลับมาสู่ท้องฟ้าอีกครั้งในสภาพสมบูรณ์ พร้อมรับผู้โดยสารขึ้นสู่ฟ้าอย่างสง่างาม

📌บางครั้ง… การได้กลับมาอีกครั้ง ไม่ได้วัดจากโชคชะตา แต่เกิดจากความตั้งใจของคนที่ไม่ยอมให้มันจบลงบนพื้นดิน..

กัปตันหมี

Cr เช่น AirlineGeeks
Photo: NTSB

เสียงคล้ายหมาเห่าใต้เครื่อง Airbus ที่แท้คือเทคโนโลยี 😊
AirbusFacts #PTU #BarkingDogSound #AviationTruth #CaptainMhee #TakeoffYourLife
fblifestyle